SISB วิ่ง 3% โบรกอัพกำไรปีนี้โต 58% ทะลุ 300 ลบ. เคาะเป้า 16.50 บ.
SISB บวก 3% โบรกปรับกำไรปีนี้ขึ้น 15.80% แตะ 329 ลบ. โต 58% อานิสงส์ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษา-นักเรียนกลับมาเรียนออนไซต์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.50 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ณ เวลา 11:06 น. อยู่ที่ระดับ 14.30 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.88% สูงสุดที่ระดับ 14.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58.40 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลัง 65 จะอยู่ที่ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงครึ่งปีก่อน และเพิ่มขึ้น 159% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลักๆมาจากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษา (โรงเรียนเริ่มปีการศึกษาใหม่เดือน ส.ค.) ราว 5% นักเรียนกลับมา on-site เต็มรูปแบบจึงส่งผลบวกต่อรายได้ค่าอาหารและค่ากิจกรรมหลังเลิกเรียน รวมถึงกิจกรรมระหว่างปิดภาคเรียน คาดว่าจำนวนนักเรียนอาจเห็นแตะ 3,000 ที่นั่งได้ในครึ่งหลังของปี (จากเป้าเดิม 2,750) จากความสนใจของผู้ปกครองไทยต่อโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้น และการเข้ามาของ นักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะชาติจีนที่มีความสนใจย้ายเข้าโรงเรียนนานาชาติในไทยสูงขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยปรับคาดการณ์กำไรปี 65 ขึ้น 15.80% เป็น 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เพื่อสะท้อน แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังที่ดีกว่าคาดการณ์เดิมประมาณการกำไรดังกล่าวอยู่บนการคาดการณ์จำนวนนักเรียนที่ 3,000 คน ปรับขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 2,750 คน อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษา 4.59 แสนบาทต่อคนต่อปี ปรับขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 4.52 แสนบาทต่อคนต่อปี และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 50% ใกล้เคียงประมาณการเดิม
นอกจากนี้ปรับประมาณการกำไรปี 66 ขึ้น 8% เป็น 428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยหลักๆ มาจากการเปิด 2 Campus ที่นนทบุรีและระยอง คาดว่าในปีแรกจะมีนักเรียนใหม่ 300 ที่นั่ง (ความจุเต็มที่แห่งละ 1,000 ที่นั่ง) และรวมกับจำนวนนักเรียนของสาขาเดิมจะเพิ่มขึ้นปีละ 300 ที่นั่ง รวมจำนวนนักเรียนปี 66 จะอยู่ราว 3,400 คน (เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 3,200 ที่นั่ง ไม่รวมเชียงใหม่) เมื่อรวมกับอัตราค่าธรรมเนียมที่ปรับขึ้นเต็มปีคาดจะทำให้อัตราค่าธรรมเนียมเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4.8 แสนบาทต่อคนต่อปี ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าการเติบโตของรายได้รวมในปี 66 ที่ 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 51% ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท