TGE ดีดบวก 5% เหนือจองสำเร็จ! โบรกแนะซื้อเป้า 2.55 บ. คาดปีนี้กำไรโต 28%
TGE ดีดบวก 5% ราคาแตะ 2.04 บ. เหนือจองสำเร็จ! ผู้บริหารมั่นใจพื้นฐานแกร่ง หลัง COD โรงไฟฟ้าต่อเนื่อง โบรกแนะซื้อเป้า 2.55 บ. คาดปีนี้กำไร 259 ลบ. โต 28% หลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ส.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ล่าสุด ณ เวลา 10:34 น. อยู่ที่ระดับ 2.04 บาท บวก 0.09 บาท หรือ 4.62% สูงสุดที่ระดับ 2.12 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.95 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 734.07 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น TGE เริ่มกลับมายืนในแดนบวกหลังเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.65 ที่ผ่านมาราคาหุ้นปิดเทรดวันแรกที่ระดับ 1.96 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาเสนอขาย IPO ที่ 2 บาท
ทั้งนี้นายพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ TGE เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 บริษัทมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จะเติบโตได้มากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากนับตั้งแต่กลางปีได้มีสัญญาขายไฟเพิ่มขึ้นอีก 6 เมกะวัตต์ (MW) จาก 5 เดือนแรกที่ยังมีรายได้เพิ่มจากสัญญาดังกล่าว รวมไปถึงการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปลายปี 2564 นอกจากนี้ยังช่วยหนุนรายได้จากการขายไอน้ำภายในสิ้นปี 2565 เข้ามาเสริมกว่า 100 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2565 จะเติบโตได้มากกว่าปี 2564 ที่มีรายได้รวม 807.50 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวมแล้ว 467.88 ล้านบาท และในปี 2566 จะเห็นการเติบโตของรายได้รวมอย่างมีนัย เนื่องจากจะมีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ COD เข้ามาเสริมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล COD แล้ว 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 MW
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน เตรียมพร้อมพัฒนาอีก 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 22 MW ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES SKW จ.สระแก้ว ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 MW โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES RBR จ.ราชบุรี ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 MW และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES CPN จ.ชุมพร ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 MW ซึ่งได้รับคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกโครงการเรียบร้อย
ทั้งนี้โรงไฟฟ้า 3 โครงการใหม่ข้างต้น ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าและจะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใน 2-3 เดือนจากนี้ โดยเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงการภายในปี 2565 ภายใต้งบการลงทุนรวมประมาณ 2,900 ล้านบาท (ทยอยจ่ายตามสัญญางวด) และดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อม COD ภายในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลให้มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเป็น 51.7 MW
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทอื่น ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เนื่องจากมีการส่งเสริมจากภาครัฐในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงมีแผนเข้าควบรวม หรือซื้อกิจการ (M&A) เข้ามาเสริมพอร์ต ซึ่งมีการศึกษาความเป็นไปได้ และมองหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” TGE ประเมินราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 2.55 บาท ซึ่งมาจากโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสิ้น 6 โครงการ โดยแบ่งเป็นมูลค่าของโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เปิดดำเนินการ COD แล้วตามโครงการที่ 1.15 บาทต่อหุ้นก่อนไอพีโอ (หลังไอพีโอรวมเงินที่ได้จากไอพีโอจะเป็น 1.53 บาทต่อหุ้น) และโรงไฟฟ้าขยะอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง 3 โครงการที่ 1.41 บาทต่อหุ้นก่อนไอพีโอ (หลังไอพีโอจะเป็น 1.02 บาทต่อหุ้น)
นอกจากนี้ได้ประเมินแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 259 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 28% ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้าชีวมวล TBP ที่เริ่ม COD ไปเมื่อปี 2564 และปี 2566 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 262 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 1% เนื่องด้วยยังไม่มีโรงไฟฟ้าที่ COD เพิ่มแต่ผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโตก้าวกระโดดอีกครั้งในปี 2567 ที่คาดว่าจะเริ่ม COD โรงไฟฟ้าขยะได้