HPT แรงต่อ 13% จับตายอดขายปีนี้ “นิวไฮ” รุกขยายตลาดยุโรป-สหรัฐ

HPT บวกต่อ 13% ลุ้นยอดขายปีนี้ทำ “นิวไฮ” โต 40-50% จากปีก่อน ขานรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมรุกขยายตลาดยุโรป-สหรัฐที่มีออเดอร์เข้ามาหนาแน่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ก.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ณ เวลา 14:41 น. อยู่ที่ระดับ 1.30 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 13.04% สูงสุดที่ระดับ 1.44 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.09 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 786 ล้านบาท

ด้าน นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ HPT กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังผลิตราว 30-50% เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่เข้ามามากในช่วงปี 66 ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มลงทุนการขยายกำลังการลิตใหม่ในช่วงเดือนเม.ย.66 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมแผนงาน วางงบลงทน และเลือกซื้อเครื่องจักร แต่หากบริษัทมองว่ามีออเดอร์เข้ามาล้นมากก็อาจจะจำเป็นที่ต้องสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ขึ้นมารองรับ

ขณะที่การช่วยลดต้นทุนการผลิตของบริษัทนั้นได้มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท้อปบนหลังคาโรงงานของบริษัท กำลังการผลิตไฟฟ้า 407 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถช่วยให้บริษัทลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้เฉลี่ย 250,000 บาท/เดือน หรือราว 3 ล้านบาท/ปี ทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้น

นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด HPT เปิดเผยว่า บริษัทยังมีความมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะทำสถิติใหม่สูงสุด (New high) หรือเติบโตขึ้นราว 40-50% จากความต้องการสินค้าของลูกค้าเข้ามามากขึ้น เป็นผลมาจากการร่วมพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้าเดิมในช่วงโควิด-19 ทำให้ได้รับออเดอร์จากลูกค้าที่ตรงกับความต้องการ รวมถึงการขยายตลาดในประเทศใหม่ๆ โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯที่มีออเดอร์เข้ามามาก และเป็นปัจจัยหนุนให้กับอัตรากำไรขั้นต้นกลับมาในระดับเดิมที่ 20-25%

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 65 จะดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก หลังจากที่มียอดออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทขยายฐานลูกค้าใหม่ไปยังกลุ่มลูกค้าที่ขายสินค้าให้กับผู้ใช้รายย่อยมากขึ้น และกลุ่มลูกค้าโรงแรมในต่างประเทศตลาดใหม่ๆ อีกทั้งยังส่งมอบงานให้กับลูกค้ามากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะส่งมอบงานและรับรู้รายได้เข้ามาราว 144 ล้านบาท จากมูลค่าออเดอร์ที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่มีกว่า 184 ล้านบาท

ออเดอร์ตอนนี้มีเข้ามาค่อนข้างมาก เรายังมีการเตรียมส่งมอบงานในช่วงที่เหลือปีนี้อีกพอสมควรที่จะมาหนุนรายได้และผลงานในครึ่งปีหลัง ส่วนตารางผลิตของเราก็เต็มไปถึงเดือนก.พ.ปีหน้าแล้ว สัญญาณนี้ทำให้เรามองทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง หรือช่วงที่เหลือจะยังเป็นทิศทางที่ดีของ HPT โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่เป็นช่วงเทศกาล ลูกค้าจะมีออเดอร์เข้ามามากขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก” นางสาวนิจวรรณ กล่าว

ส่วนการขายสินค้าในประเทศผ่านบริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิแทลลิที จำกัด (CHL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ HPT ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ครัวครบวงจร ภายใต้สโลแกน “ครบ พร้อม สำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร” คาดว่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และคาดว่าธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากที่โควิด-19 ได้ถูกประกาศเป็นโรคประจำท้องถิ่น

Back to top button