หุ้นยุโรปปิดลบ ตลาดวิตกเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัว

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลงในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.81% ปิด (13 พ.ย.) ที่ 369.53 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,807.95 จุด ลดลง 48.70 จุด หรือ -1.00%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,708.40 จุด ลดลง 74.23 จุด หรือ -0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,118.28 จุด ลดลง 60.40 จุด หรือ -0.98%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 ซึ่งลดลงจากระดับ 0.4% ในไตรมาส 2 โดยการชะลอตัวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 จากระดับ 0.4% ในไตรมาส 2

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว โดยล่าสุด นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า กำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐกำลังใกล้เข้ามาแล้ว และเฟดไม่ควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อันเนื่องจากความวิตกกังวลต่อปฏิกริยาในเชิงลบของตลาด หรือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้บรรลุผลส่วนใหญ่ตามที่ต้องการแล้ว

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ร่วงลงกว่า 5% หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม หุ้นซินเจนตา เอจี ทะยานขึ้น 11% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทไชน่า เนชันแนล เคมิคอล กำลังเจรจาซื้อกิจการซินเจนตา

Back to top button