PSTC บวกต่อเนื่อง 4 วันติด รับข่าวดีบอร์ดลงทุนโรงไฟฟ้า-เพิ่มทุน-ออกวอแรนต์
PSTC บวกต่อเนื่อง 4 วันติด รับข่าวดีบอร์ดลงทุนโรงไฟฟ้า-เพิ่มทุน-ออกวอแรนต์ โดย ณ เวลา 11.11 น.อยู่ที่ 1.11 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.78% มูลค่าการซื้อขาย 37.79 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีหุ้นโดยรวมลบ 0.57%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ณ เวลา 11.11 น.อยู่ที่ 1.11 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.78% มูลค่าการซื้อขาย 37.79 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.04 บาท ต่ำสุดที่ 1.03 บาท สูงสุดที่ 1.14 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นโดยรวมลบ 0.57%
ทั้งนี้ ราคาหุ้น PSTC มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.58 จากระดับต่ำสุดที่ 1.00 บาท
โดยวันนี้ PSTC เผยบอร์ดไฟเขียว1)พิจารณาอนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดในบริษัท อรัญ เพาเวอร์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ โดยมีที่ตั้งโครงการอยู่ที่ ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี และได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อเดือนมี.ค.57 ในราคาเบื้องต้นประมาณ 228.3 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม
พร้อมดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของอรัญเพาเวอร์ อีกเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 176.7 ล้านบาท เพื่อให้อรัญเพาเวอร์ใช้คืนเงินกู้ยืม ซื้อที่ดินซึ่งเป้นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ขายหุ้นอรัญเพาเวอร์ เพื่อปรับปรุงสินทรัพย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต อย่างไรก็ตาม มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งโครงการจะไม่เกิน 405 ล้านบาท
นอกจากนี้ อรัญเพาเวอร์ยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งมีขนาดพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 4 เมกะวัตต์ ณ ปัจจุบัน อรัญเพาเวอร์ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ โดยบริษัทคาดว่าจะดำเนินการในอนาคตค ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว มีกำหนดวันเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในวันที่ 30 ก.ย. 60
2)พิจารณาอนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดในบริษัท เศรษฐีสุพรรณ ไบโอกรีน เพาเวอร์ จำกัด ผู้ประกอบการกิจการธุรกิจไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ โดยมีที่ตั้งโครงการอยู่ที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสุพรรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี และได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อเดือน ต.ค. 58 ในราคาเบื้องต้นประมาณ 43.4 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท และดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของเศรษฐีสุพรรณ อีกจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 153.6 ล้านบาท เพื่อให้เศรษฐีสุพรรณใช้คืนเงินกู้ยืม ซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ขายหุ้นเศรษฐีสุพรรณเพื่อปรับปรุงสินทรัพย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม มูลค่าเงินลงทุนทั้งโครงการจะไม่เกิน 197 ล้านบาท
3) พิจารณาอนุมัติให้บริษัท ไบโอโกกรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนประมาณร้อยละ 99.7 ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ (KW) ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันไบโอโกกรีนได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว (ทั้งนี้ ไบโอกรีนอยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากจังหวัดตรังไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช) โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท
4)ให้ไบโอโกกรีน ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ ในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งปัจจุบันไบโอโกกรีนได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท
5)ให้โบโอโกกรีน ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งปัจจุบันไบโอโกกรีนได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 120 ล้านบาท
รวมทั้งอนุมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 268,029,783.30 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็นจำนวน 492,597,533.30 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,680,297,833 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 442,283,875 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ PSTC-W1 และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 26,594,583 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อรองรับการปรับสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ PSTC-ESOP เนื่องขากการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท