SC เผย Q4 เปิด 3 โครงการมูลค่า 7 พันลบ.มี Backlog 8,680 ลบ.รับรู้ใน 3 ปี
SC เผย Q4 เปิด 3 โครงการมูลค่า 7 พันลบ.มี Backlog 8,680 ลบ.รับรู้ใน 3 ปี
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/58 เริ่มมีการโอนห้องชุดโครงการเซ็นทริค ซี พัทยา คอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ทำเลใจกลางพัทยา สาย 2 ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท/ยูนิต
พร้อมกันนั้น บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวมกัน 7,000 ล้านบาท โครงการแรก คือ โครงการแชมเบอร์ส ชาน ลาดพร้าว-วังหิน คอนโดฯ low rise ใหม่ แนวคิดคอนโดอารมณ์บ้าน บนพื้นที่ 3-3-35 ไร่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักคือ กลุ่มผู้อยู่อาศัยในทำเลเดิม (local demand) ในรัศมีจากโครงการ 5 กม. ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเดิมในทำเลระดับพรีเมี่ยม มูลค่าโครงการ 930 ล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านบาทขึ้นไป
และอีก 2 โครงการ เป็นคฤหาสน์หรูแบรนด์ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ใน 2 ทำเลฝั่งกรุงเทพตะวันตกและตะวันออก ได้แก่ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ ติดถนนตัดใหม่พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ถนนใหญ่ขนาด 8 เลน ซึ่งเชื่อมเส้นทางสำคัญของฝั่งกรุงเทพตะวันตกหลายสาย จรัญสนิทวงศ์ ( สามแยกไฟฉาย ) กาญจนาภิเษก ราชพฤกษ์ ใกล้ รพ.ศิริราช เพียง 15 นาที พื้นที่โครงการ 61-1-20.3 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท เพียง 92 หลัง ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
และ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ต้นถนนบางนา-ตราด ใกล้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งและไบเทคบางนา ใกล้โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ขนาด 47-3-56.1 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท เพียง 65 หลัง ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
ทั้ง 2 โครงการนี้ เป็นคฤหาสน์ซีรีย์ใหม่ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ทั้งรูปแบบโครงการและฟังก์ชั่นภายใน ขนาดเริ่มต้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 484 ตารางเมตร ซึ่งได้เปิดขายรอบพิเศษสำหรับผู้สนใจที่ลงทะเบียนบน www.scasset.com พร้อมกลุ่มลูกค้าเดิมของ SC เท่านั้น ก่อนจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในปี 59
สำหรับภาพรวมรายได้จากผลประกอบการ 9 เดือนเติบโตโดดเด่น โดยมียอดขายรวม 8,284 ล้านบาท เติบโตขึ้น 36% จากปี 57 ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9,058 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 57 ซึ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 9,030 ล้านบาท ที่มาจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย คิดเป็นสัดส่วน 93% กับรายได้จากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าและบริการที่สัดส่วน 7% มีกำไรขั้นต้น 36.9% และมีกำไรสุทธิ 1,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 57
ณ 30 ก.ย.58 มี Backlog 8,680 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 20% และที่เหลือรอรับรู้รายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ตลาดครึ่งปีแรกเติบโตดี โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับราคามากกว่า 15 ล้านบาทขึ้นไปของ SC นั้นมีส่วนแบ่งตลาดเท่ากับ 35% และเป็นอันดับ 1 ซึ่งเป็นรายได้เท่ากับ 2,474 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 40%yoy จึงมั่นใจว่ายังรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดบ้านเดี่ยวราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ตลอด 5 ปีนี้ พร้อมกับมั่นใจสถานการณ์ตลาดบ้านหรูยังเติบโต
สำหรับในไตรมาส 3 ตลาดมีการชะลอลงเล็กน้อย และเริ่มกลับมาคึกคักในไตรมาส 4 โดยมีสัญญาณที่ดีมาจากยอดขายพรีเซลส์โครงการแนวราบในเดือนต.ค.ประมาณ 1,200 ล้านบาท เติบโตกว่าเดือน ก.ย.ถึง 85% ซึ่งมีผลมาจากแคมเปญการตลาด Knock – Out Price และมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากรัฐบาล
ล่าสุด SC ได้พัฒนานวัตกรรมการบริการเพื่อรองรับ Lifestyle ชีวิตทันสมัยในยุคดิจิตอลที่เปลี่ยนไป และเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าของ SC (SC FAMILY) ในชื่อ SC MINE บริการหลังการขายแบบออนไลน์ โดยเฟสแรกให้บริการบนเว็บไซต์ www.scasset.com เพียงลงทะเบียนสมัครได้ด้วยตนเองที่ www.scasset.com/scmine ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีบริการ 4 อย่าง คือ
1. เช็คประวัติการชำระ-บริการชำระค่างวดผ่อนดาวน์ผ่าน Online Banking ของ 4 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารธนชาติ (TBank) รวมถึงการแสดงสำเนาใบเสร็จรับเงิน 2. การอัพเดทข้อมูลส่วนตัว 3. บริการแจ้งซ่อมออนไลน์ 4.การรับข่าวสาร กิจกรรมและสิทธิพิเศษจาก SC FAMILY ส่วนเฟส 2 จะมีการพัฒนาเป็น Application บนสมาร์ทโฟนและเริ่มใช้ในปี 2559