RT ดีดกว่า 3% หลังคว้างานอุโมงค์รถไฟ “งาว-เชียงราย” ดันแบ็กล็อกเฉียดหมื่นล.
RT เด้งกว่า 3% หลังคว้างานอุโมงค์รถไฟสัญญาที่ 2 ช่วง "งาว-เชียงราย" มูลค่า 2.3 พันล้านบาท ดันแบ็กล็อกแตะ 9.37 พันล้านบาท ทะลุเป้าที่วางไว้ที่ 8.5 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ณ เวลา 14:37 น. อยู่ที่ระดับ 1.78 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 3.49% สูงสุดที่ระดับ 1.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.65 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28.65 ล้านบาท
โดยราคา RT ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดการซื้อขายภาคบ่าย หลังได้รับงานโครงการใหม่ในเดือนก.ย.65 จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ งานก่อสร้างอุโมงค์โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย จากการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยกิจการร่วมค้าซีเคเอสที-ดีซี 2 (บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ จำกัด) เป็นผู้ว่าจ้าง รวมมูลค่างานทั้งสิ้น 2,307,990,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยว่า บริษัทรับงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ในส่วนงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ช่วงงาว-เชียงราย มูลค่า 2,157 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเป็นผู้รับเหมาช่วงจาก กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี 2 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ จำกัด
สำหรับงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ระยะทางทั้งหมด 323 กิโลเมตร โดยมีการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว, สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และ สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ
“การเข้ารับงานครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากงานโครงการเดิม โดยอาศัยความได้เปรียบในด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษ อีกทั้งการมีเครื่องมือเฉพาะทางของบริษัท โดยขณะนี้บริษัทได้รับหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent หรือ LOI) เป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/2565” นายชวลิต กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีความพร้อมในการดำเนินงานเต็มศักยภาพ ทั้งด้านการจัดการแรงงานก่อสร้าง การบริหารต้นทุนที่ดี อีกทั้งมีการเข้าติดตามงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ประกอบกับการเข้ารับงานทั้งภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้ารับงานในโครงการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมียอดรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบัน จำนวน 9,375 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 8,500 ล้านบาท