YGG บวก 5% มั่นใจปีนี้รายได้โตเข้าเป้า 15-20% โชว์แบ็กล็อกแน่น 120 ล้าน

YGG บวก 5% มั่นใจปีนี้รายได้โตเข้าเป้า 15-20% โชว์แบ็กล็อกแน่น 120 ล้าน เล็งคลอดโปรเจกต์แกรนด์โดร่า Q4 ปีนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ณ เวลา 15:40 น. อยู่ที่ระดับ 10.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 5.00% สูงสุดที่ระดับ 10.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 124.91 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร YGG กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3/2565 ได้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อบริษัท MYGG จำกัด โดย YGG ถือหุ้น 50% และบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ถือหุ้น 50% ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ และจะทยอยมีผลงาน หรือเกมใหม่ร่วมกันออกมา ซึ่งจะเป็นเกมนำเข้ามาทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเห็นภาพชัดเจนนับตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2566 เป็นต้นไป

ขณะที่ในไตรมาส 4/2565 จะมีโปรเจกต์แกรนด์โดร่า หรือ GRANDORA (event I) โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ทุกคนสามารถเป็นเกมเมกเกอร์ สร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ในโลกเสมือนจริง และจะอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม เล่นได้ทั้งในมือถือ  และคอมพิวเตอร์ ถือเป็นเกมแรกที่เล่นได้ในมือถือ นอกจากนี้ทุกเกมที่พัฒนาขึ้นมาจะสามารถเชื่อมโยงกับโปรเจกต์แกรนด์โดร่า เป็นสิ่งที่บริษัทพัฒนาขึ้นมา มีความสวยงาม อลังการ เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ทุกคนมาร่วมทำกิจกรรมร่วมกันได้ รวมถึงให้ทุกคนสามารถสร้างเกมในโลกแกรนด์โดร่า และสามารถทำเงินได้ในแกรนด์โดร่า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีเริ่มจัดอีเวนต์เพื่อโปรโมตภายในเดือน ธันวาคม 2565 ซึ่งงานเกมของ YGG จะเปิดตลาดทั้งในประเทศ รวมทั้งตลาดเอเซียแปซิฟิก และตลาดโลก

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 จะมีการทยอยเปิดตัวเกมใหม่อย่าง NINEEYES และ GOI รวมถึงจะมี แกรนด์โดร่า (event II) ออกมาเพิ่ม ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาและปรับรูปแบบให้เป็นเกมที่สมบูรณ์น่าสนใจ เพื่อตอบโจทย์ผู้เล่นเกมจากทั่วโลก

ด้านงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น บริษัทมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทยักษ์ใหญ่ในแถบเอเชียเพื่อทำโปรดักชั่นซีรีส์แอนิเมชั่นป้อนตลาดทั่วโลก คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นอีกโปรเจกต์ใหญ่ของ YGG ที่เปิดตัวแล้วจะสร้างความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2565 บริษัทมีงานรอรับรู้รายได้ในมือ (Backlog) จำนวน 120 ล้านบาท หรือประมาณ 10 โปรเจกต์ แบ่งเป็นงานแอนิเมชั่น สัดส่วน 81.3%, งานเกม สัดส่วน 16.7% และงานออกแบบและผลิตงานโฆษณาและภาพยนตร์ (Visual Effects-VFX) สัดส่วน 2% ซึ่งระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 1-14  เดือน แต่โดยเฉลี่ยจะมีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 10 เดือน

ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทุกส่วนงาน ในขณะเดียวกันมีงานรอรับและรู้รายได้ในมือ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นไตรมาส 2 จำนวน 120 ล้านบาท และยังมั่นใจว่าในปีนี้ รายได้สามารถเติบโตตามเป้า 15-20% โดยเฉพาะในส่วนเกมจะเริ่มทยอยเปิดตัวเกมใหม่ช่วงปลายปีนี้ ถึงไตรมาส 1 ปี 66

Back to top button