TIGER พุ่งกระฉูด 16% ลุ้นครึ่งหลังธุรกิจก่อสร้างฟื้นตัว! ดันรายได้ปีนี้แตะพันล้าน
TIGER พุ่งกระฉูด 16% ลุ้นครึ่งหลังธุรกิจก่อสร้างฟื้นตัว! ดันรายได้ปีนี้แตะพันล้าน พร้อมลุ้นผลประมูลงาน 2 พันล้าน คาดได้งานไม่ต่ำกว่า 30%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(28 ก.ย.65) บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TIGER ณ เวลา 15:18 น. อยู่ที่ระดับ 2.40 บาท บวก 0.34 บาท หรือ 16.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 69.59 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TIGER เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานมูลค่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 30% ของมูลค่างาน และจะทยอยประกาศผลประมูลออกมาภายในช่วงไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยหนุนงานในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีงานรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
โดยปัจจุบันการดำเนินธุรกิจของ TIGER ได้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมภาคการก่อสร้างที่ขยายตัวจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และเอกชน แม้ว่าจะมีประเด็นเรื่องต้นทุนเหล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบที่สามารถควบคุมได้ตามเกณฑ์ของบริษัท รวมไปถึงการขยายไปยังกลุ่มธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และธุรกิจใหม่ตามแผนต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าจะมีอัตรากำไร และกำไรสุทธิที่ดีขึ้น เป็นไปตามการถือหุ้นของบริษัทร่วม คือ บริษัท ออปติไวส์ จำกัด ในสัดส่วน 40% ผู้ดำเนินธุรกิจการให้บริการจัดการข้อมูลและการสื่อสารองค์กร ที่สามารถคืนทุนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะสร้างกำไร และผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นธุรกิจที่เติบโตค่อนข้างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดมีการขยายงานไปสู่เมตาเวิร์สด้วย เป็นต้น
ส่วนความคืบหน้าการศึกษาเข้าควบรวม หรือซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจพรีคาสต์ (precast) เพื่อลดปัญหาเรื่องแรงงาน คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2565 รวมถึงการขยายธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่จะชัดเจนภายในช่วงครึ่งปีแรกเช่นกัน ดังนั้นมั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2565 รายได้จะเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 724.44 ล้านบาท และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 12%
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งการลงทุนในธุรกิจใหม่ หรือธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่1. ธุรกิจผลิตน้ำประปา2. ธุรกิจรับบริการออกแบบและก่อสร้างโรงงาน โกดัง คลังสินค้าแบบสั่งสร้าง (Built to Suit) และ3. ธุรกิจโรงแรม ยังคงอยู่ในแผนการดำเนินงาน แต่จะชะลอแผนงานในส่วนต่าง ๆ ไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น