24CS ฟลอร์ 30% นักลงทุนขายทำกำไร หลังเทรดวันแรก 200%
24CS รูดติดฟลอร์ 29.90% นักลงทุนขายทำกำไร หลังเทรดวันแรกวานนี้พุ่งแรง 200% ฟากซีอีโอ “ยศวีย์” ลั่นผลงานครึ่งปีหลังสดใส ตุนแบ็กล็อกแน่น 1,168 ล้านบาท ลุ้นรับงานใหม่อีกเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS ณ เวลา 14:44 น. อยู่ที่ระดับ 7.15 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 29.90% โดยทำจุดสูงสุดที่ 11.10 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 7.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.75 พัน ล้านบาท โดยราคาหุ้นร่วงต่ำสุดของวัน(Floor)
ขณะที่วานนี้ (3 ต.ค.65) ราคาหุ้น 24CS เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยเปิดตลาดที่ราคา 7.10 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท หรือราว 108.82% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 3.40 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ราคา 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 6.80 บาท หรือบวกเต็ม 200% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 4.97 พันล้านบาท
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประทศไทย) ระบุว่า 24CS มีจุดเด่นมี Backlog ในมือราว 1,168 ล้านบาท แย้มครึ่งปีหลังงบยังพีคได้อีก หลังครึ่งแรกรายได้โต 124% ที่ 407 ล้านบาท กำไรโต 434% ที่ 12 ล้านบาท รับไฮซีซั่นธุรกิจ เร่งส่งมอบงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ด้านเงินระดมทุนใช้เสริมศักยภาพการรับงานโปรเจกต์ใหญ่ ดันผลงานโตก้าวกระโดด
ขณะที่นายยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 24CS เปิดเผยว่า ราคาหุ้น 24CS ที่เข้าซื้อขายวันแรกวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาไอพีโอ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ตลอดจนพื้นฐานธุรกิจดี และมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกไกลในอนาคต สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 422 ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท โดยมีระยะเวลาการใช้เงินในระหว่างปี 65-66 เพื่อรองรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งในด้านจำนวนโครงการและมูลค่าโครงการ เพื่อสร้างโอกาสการเข้าประมูลงานโครงการที่ทยอยออกมาเพิ่มขึ้น
ส่วนทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทยังมีมูลค่างานในมือ หรือ แบ็กล็อก จำนวน 1,168 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา
ทั้งนี้ จะทยอยส่งมอบตั้งแต่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ไปจนถึงช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างการรอฟังผลเข้าประมูลงานใหม่อีกหลายโครงการ ซึ่งจะสนับสนุนตัวเลขแบ็กล็อกให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องหลังจากนี้