PTTEP-TOP เด้ง! รับอานิสงส์ “โอเปกพลัส” เล็งลดผลิตวันนี้
PTTEP-TOP เด้ง! รับอานิสงส์ "โอเปกพลัส" เล็งลดกำลังผลิตน้ำมันดิบวันนี้ ฟาก “บล.ดาโอ” คาดหั่นสูงราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(5 ต.ค.65) ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า คาดเก็งกำไรผลการประชุมของ OPEC+ วันนี้มีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ราคาหุ้น ณ เวลา 10:10 อยู่ที่ระดับ 166.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 0.91% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 166.50 บาท ราคาต่ำสุด 165.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 206.26 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ณ เวลา 10:12 อยู่ที่ระดับ 52.50 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 1.94% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 52.758 บาท ราคาต่ำสุด 52.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 154.37 ล้านบาท
ด้านนายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุนเอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้กลุ่มโอเปกพลัสมีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิตลงอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา หากมติออกมาว่า กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจลดกำลังการผลิตจริง คาดว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบจะดีดตัวขึ้นเกินระดับ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และหากมีการลดกำลังการผลิตเป็นครั้งที่สอง เชื่อว่า จะเห็นราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สำหรับหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์ครั้งนี้มากที่สุด คือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ได้แก่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ที่จะดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ที่ประเมินว่า PTTEP และกลุ่มโรงกลั่นฯ จะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบ ที่อาจจะฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น หลังปรับลดลงมาแรง 15% ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วานนี้ราคาหุ้น PTTEP,TOP,ESSO,BCP และ SPRC ปิดตลาดปรับตัวขึ้นจากปัจจัยดังกล่าวกันถ้วนหน้า
ด้านบล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(5 ต.ค.65) ว่า ราคาน้ำมันมีความผันผวนสูงขึ้นก่อนการประชุมของ OPEC+ ในวันนี้ โดยล่าสุด มีการคาดการณ์ว่า OPEC+ อาจตัดสินที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันรวมสูงถึง 2.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) ซึ่งจะเป็นระดับที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลุ่ม OPEC+ มีการปรับลดกำลังการผลิต 9.7mbd ในเดือน พ.ค.63 ตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้วานนี้ราคาสัญญาณซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 3.3% เป็น 91.8 เหรียญ/บาร์เรล
อย่างไรก็ดีทางกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ได้ข้อตกลงทำการคว่ำบาตร (sanction) รัสเซียเพิ่มเติมซึ่งรวมถึง การสนับสนุนการคุมราคา (price cap)การขายน้ำมันให้ประเทศที่สาม (ที่มา: Bloomberg, Reuters)
โดยบล.ดาโอ มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น ทั้งนี้เชื่อว่าหาก OPEC+ มีการปรับลดกำลังการผลิตนน้ำมันจริงก็จะส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกตึงตัวมากขึ้น เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 4/65 เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ในเบื้องต้น ยังคงประมาณการสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 65 ที่ 105 เหรียญ/บาร์เรล และยังคงน้ำหนัก “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มพลังงาน โดยยังคงชอบหุ้นพลังงานต้นน้ำ คือ PTTEP (แนะซื้อราคาเป้า 200 บาท) ซึ่งเชื่อว่าจะได้ประโยชน์ จากแนวโน้มปริมาณขายที่สูงขึ้นต่อเนื่องและการปรับขึ้นของราคาขายราคาก๊าซธรรมชาติ