TEGH ดีด 3% โบรกเคาะเป้า 8 บ. ชี้กำไรปี 65 โต 45% รับส่งออก-ขยายกำลังผลิตหนุน
TEGH เด้ง 3% เก็งกำไรปีนี้โต 45% รับยอดขายยางพาราและน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น และราคาขายยางพาราปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงบาทอ่อนหนุนส่งออกเด่น แนะนำราคาเป้าหมาย 8 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ณ เวลา 14:31 น. อยู่ที่ระดับ 4.64 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 3.11% สูงสุดที่ระดับ 4.66 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136.69 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เงินบาทที่อ่อนค่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มบริษัท เนื่องจากครึ่งหนึ่งของยอดขายมาจากการส่งออก จึงคาดว่ากำไรปกติช่วงปี 2565-2567 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 18% ต่อปี หนุนจากรายได้ที่มีแนวโน้มขาขึ้นซึ่งคาดว่าจะไปถึง 2 หมื่นล้านบาทในปี 2567 ส่วนต่างราคาระหว่างยางธรรมชาติและวัตถุดิบคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูง โดยคาดความประหยัดต่อขนาดจะดีขึ้นจากต้นทุนคงที่คาดเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง และคาดว่าอัตราส่วนสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นจาก 1 เท่า ในปี 2564 มาอยู่ที่ 1.3 เท่า ในปี 2565 แนะนำราคาเป้าหมาย 7.2-8 บาท/หุ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า กำไรปี 2566 ของ TEGH จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 12% และในปี 2567 เติบโต 6% ตามลำดับ โดยราคายางและน้ำมันปาล์มดิบที่อยู่ในระดับสูงในปี 2564-2565 อาจชะลอตัวลงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของหลายประเทศเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการลดการผลิตและการบริโภคทั่วโลก
อย่างไรก็ตามคาดว่าจะยังได้ผลบวกจากการขยายกำลังการผลิตและการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 ของ TEGH ที่ 6.90 บาท
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ TEGH ปี 2565 เติบโต 45% และในปี 2566 เติบโต 15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราและน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น และราคาขายยางพาราปรับเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการขยายกำลังการผลิต โดยกำหนด Fair value ปี 2565 ที่ 6 บาท และ Fair value ปี 2566 ที่ 6.90 บาท