AEONTS-KTC กอดคอร่วง! ผวา “ออมสิน” ลุยสินเชื่อบุคคล กดดอกเบี้ยลงอีก 5%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ต.ค.65) ล่าสุด ณ เวลา 10:11 น. ราคาหุ้น บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS . อยู่ที่ระดับ 164.00 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 0.91% สูงสุดที่ระดับ 165 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 164 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.9 ล้านบาท

บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 54.50 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 0.91% สูงสุดที่ระดับ 54.50บาท ต่ำสุดที่ระดับ 54 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60.74 ล้านบาท

โดย นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารเตรียมยื่นขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพื่อทำธุรกิจนอนแบงก์ภายในช่วงต้นปี 2566 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในปลายไตรมาส 3/2566 หรือต้นไตรมาส 4/2566 โดยจะเป็นการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan ผ่านแอปพลิเคชัน MyMo คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด 5% จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยในตลาดอยู่ที่ราว 25%

ทั้งนี้ จะเป็นการให้บริการผ่านบริษัทลูกแห่งใหม่ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นมา เปรียบเสมือนแบรนด์ที่ 2 ของออมสิน (2nd Brand) ที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น เน้นเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มลูกค้ารายย่อย กลุ่มฐานรากที่ปัจจุบันต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก

สำหรับโครงสร้างของบริษัทใหม่นี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งดูไว้หลายรูปแบบ เช่น บริษัทมีที่มีเงินถือหุ้น 100%, ออมสินถือหุ้น 49% และบริษัทที่มีเงินถือหุ้น 51% หรือออมสินถือหุ้น 49% และพาร์ตเนอร์อื่นถือหุ้น 51%

โดยปีหน้าออมสินจะทำนอนแบงก์เต็มตัว เพราะดอกเบี้ยในตลาดสูงมาก โดยจะดึงดอกเบี้ยลงมาต่ำกว่า 5% เพื่อช่วยรายย่อยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ จะปล่อยสินเชื่อเริ่มต้นราวๆ 1-2 หมื่นบาท ผ่าน MyMo เป็นการให้บริการ Digital Lending 100%

“ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Lending โดยเตรียมเปิดตัวสินเชื่อ My Credit ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ เจาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้า รับจ้าง ผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้ 10,000-30,000 บาท ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยจะใช้ Alternative Data แทนการวิเคราะห์รายได้ โดยมีวงเงินรวม 1,000 ล้านบาท เบื้องต้นตั้งเป้าลูกค้า 1 แสนราย จากฐานลูกค้า MyMo ที่มีอยู่กว่า 13 ล้านราย” นายวิทัย กล่าว

ด้าน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด กล่าวว่า กรณีที่ธนาคารออมสินเข้ามาทำธุรกิจนอนแบงก์ ย่อมส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่และสาขาจำนวนมาก มีต้นทุนที่ต่ำกว่าบริษัทนอนแบงก์ทั่วๆ ไป ซึ่งหากกดดอกเบี้ยในตลาดลง 5% จะส่งผลกระทบต่อผู้ปล่อยกู้สินเชื่อบุคคลรายใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยหุ้นกลุ่มนอนแบงก์ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีค่อนข้างมาก ได้แก่ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดยเฉพาะสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน

ส่วนกลุ่มนอนแบงก์ อย่างเช่น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC นั้น คาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อบุคคลส่วนใหญ่จะเป็นการปล่อยต่อเนื่องจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเป็นสินเชื่อมีหลักประกัน โดยหากลูกค้าต้องการวงเงินเพิ่มนอกเหนือจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแล้ว ก็สามารถขอเพิ่มเติมอีกจากสินเชื่อบุคคลได้

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามนโยบายของธนาคารออมสินอีกครั้ง ว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าจากกลุ่มนอนแบงก์ได้มากน้อยแค่ไหน