7 หุ้นไฟแนนซ์ ร่วง! เซ่นคุมเพดานดอกเบี้ย “รถยนต์-มอเตอร์ไซค์” 10-23% ต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ต.ค. 65) ณ เวลา 14:44 น. ราคาหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวลง นำโดย บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD อยู่ที่ระดับ 39 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 4.88% สูงสุดที่ระดับ 40.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 651.10 ล้านบาท

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC อยู่ที่ระดับ 33 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.65% สูงสุดที่ระดับ 34 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 281.25 ล้านบาท

บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP อยู่ที่ระดับ 3.14 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 3.68% สูงสุดที่ระดับ 3.28 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.06 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.29 ล้านบาท

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR อยู่ที่ระดับ 24.20 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 2.81% สูงสุดที่ระดับ 24.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 23.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 286.39 ล้านบาท

บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO อยู่ที่ระดับ 4.22 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 2.76% สูงสุดที่ระดับ 4.36 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.22 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.36 ล้านบาท

บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK อยู่ที่ระดับ 8.95 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 1.10% สูงสุดที่ระดับ 9.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 แสนบาท

บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK อยู่ที่ระดับ 6.70 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.74% สูงสุดที่ระดับ 6.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.31 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นที่ปรับลงนั้นคาดจะมาจากกรณี เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565 มีผลหลัง 90 วันนับจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมอง Neutral ต่อการประกาศกฎเกณฑ์สัญญาเช่าซื้อใหม่ เพราะ 1.ประเภทรถที่ถูกควบคุมคือ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 2.เพดานดอกเบี้ย คือ รถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% ต่อปี รถยนต์ใช้แล้วไม่เกิน 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ต่อปี ไม่ได้ต่างจากที่ทราบมาก่อนหน้า

ทั้งนี้คาดว่าบริษัทที่ได้รับผลกระทบ คือ SAWAD, MTC และ MICRO โดย SAWAD ได้รับผลกระทบมากสุด ซึ่งทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินผลกระทบกรณีแย่ที่สุด ภายใต้สมมติฐานสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ 20-25% ทำให้กำไรสุทธิปี 66 คาดอยู่ที่ 5,277 ล้านบาท มี downside 10-12%

ส่วน MTC และ MICRO ได้รับผลกระทบไม่มาก จาก MTC มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 6% และคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 22-24% ต่อปี โดยทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินผลกระทบกรณีแย่ที่สุด ภายใต้สมมติฐานสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ 6% จะทำให้กำไรสุทธิปี 66 คาดอยู่ที่ 6,663 ล้านบาท มี downside ประมาณ 1% และ MICRO มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 2% และคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 30-31% ต่อปี ซึ่งทางฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไว้ในประมาณการ