ดอลล์แข็งค่า หลังข้อมูลเงินเฟ้อหนุนคาดการณ์เฟดขึ้นดบ.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซนจากเหตุโจมตีที่กรุงปารีส


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0650ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0678 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5213 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5197 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.40 เยน จาก 123.28 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0144 ฟรังก์ จาก 1.0101 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7121 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7091 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนี CPI และดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.

ข้อมูลเงินเฟ้อที่ปรับตัวดีขึ้นได้ช่วยหนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของดอลลาร์ได้ชะลอความแรงลง เนื่องจากเฟด เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.2% ในเดือนต.ค. โดยร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว

ส่วนสกุลเงินยูโรยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจภูมิภาค อันเนื่องมาจากเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดกันว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

Back to top button