จับตารายงานประชุมเฟด นักวิเคราะห์มองมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค. สูงเกือบ 70%
จับตารายงานประชุมเฟดวันที่ 27-28 ต.ค. รอดูสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า ด้านนักวิเคราะห์เผยมีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. สูงเกือบ 70% หลังตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 27-28 ต.ค.อย่างใกล้ชิด ซึ่งเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าวในวันนี้ (18 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนต้องการจับสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือไม่
โดยกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงประเด็นที่ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณในเรื่องดังกล่าว โดยล่าสุดนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้บรรลุผลส่วนใหญ่ตามที่ต้องการแล้ว
ด้านนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ เปิดเผยว่า กำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐกำลังใกล้เข้ามาแล้ว และเฟดไม่ควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อันเนื่องจากความวิตกกังวลต่อปฏิกริยาในเชิงลบของตลาด หรือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐ
สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ล่าสุด ซึ่งจัดทำโดย CMEGroup’s Fedwatch ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นั้น มีสูงเกือบ 70% เมื่อพิจารณาจากตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่ง หลังจากที่ข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรล่าสุดเพิ่มขึ้นเกินคาด
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 จาก 5.1% ในเดือนก.ย.