น้ำมันดิบปิดบวกหลังสต็อกเพิ่มน้อยกว่าคาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิด (18 พ.ย.) ที่ 40.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 44.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 252,000 บาร์เรล สู่ระดับ 487.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 56.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 214.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล สำหรับสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 791,000 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 140.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ดังกล่าว ปรับตัวขึ้น 3,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.182 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2558 และ 56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2559 พร้อมกับคาดว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เลในปี 2558 และ 51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2559