KISS บวก 5% นิวไฮรอบ 9 เดือน ส่งซิกครึ่งปีหลังโตดี เร่งออกสินค้าใหม่-ขยายตลาดเพิ่ม

KISS บวกแรง 5% นิวไฮรอบ 9 เดือน ส่งซิกครึ่งปีหลังโตดี เร่งออกสินค้าใหม่ พร้อมเดินหน้ารุกตลาดอินโดนีเซีย-เวียดนาม ย้ำแผน 5 ปียอดขาย 3,000 ล้านบาทโบรกแนะซื้อเป้า 11.20 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ต.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS ณ เวลา 12:22 น. อยู่ที่ระดับ 9.90 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 5.32% สูงสุดที่ระดับ 9.95 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50.90 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 9 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 10.00 บาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค.65

โดยก่อนหน้านี้นางสาววิภาภรณ์ เนียมละออง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในช่วงปลายไตรมาส 3/2565 บริษัทมีแผนที่จะขยายสินค้าในกลุ่มสุขภาพ จากในปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มสกินแคร์สูงสุดกว่า 80% และมั่นใจว่าแนวโน้มยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จะมีการพลิกกลับมาเติบโตจากครึ่งปีแรกที่ลดลงประมาณ 18% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จะส่งให้กำลังซื้อค่อย ๆ เริ่มกลับมา รวมถึงการเปิดประเทศที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบ COVID-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งจะเน้นการหาโอกาสในตลาดอินโดนีเซียและเวียดนามมากขึ้น

“ในช่วงไตรมาส 2/2565 ที่ผ่านมา ตลาดอินโดนีเซียก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากยอดขายที่เริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดเวียดนามก็มองเห็นศักยภาพกำลังซื้อที่กลับมามากขึ้นเช่นกัน”

ทั้งนี้ตามกลยุทธ์ที่ตั้งเป้าตามแผน 5 ปี เพื่อดันยอดขายสู่ 3,000 ล้านบาท โดยในปีนี้ได้มีการออกผลิตภัณฑ์และพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ ๆ ต่อเนื่อง และมีการเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมในช่วงครึ่งปีหลังกว่า 30 รายการ (SKUs) เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายเพิ่มเติมจากครึ่งปีที่ออกผลิตภัณฑ์ประมาณ 16 รายการสินค้า

รวมถึงเตรียมเปิดตัวสเปรย์พ่นจมูกป้องกันหรือยับยั้งเชื้อ COVID-19 ด้วย โดยในช่วงครึ่งปีหลังทางบริษัทจะมีการกลับมากระตุ้นการทำการตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าใหม่และทำโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ เช่น การทำการตลาดผ่าน TikTok, Facebook, Live สด เป็นต้น

ด้านบล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ผู้บริหารคาดภาพรวมในช่วงครึ่งปีหลัง 65 จะได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยที่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หลังคนกลับมาทำงาน และมีการเปิดประเทศ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยที่กลับมามากขึ้น โดยบริษัทจะใช้สื่อโฆษณา ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้นเพื่อช่วยกระตุ้นการซื้อสินค้า พร้อมกับการทำโปรโมชั่นต่างๆ

นอกจากนี้จะมีการเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง 65 เข้ามาเสริมอีก 35-40 SKU จากครึ่งปีแรก 65 ออกสินค้าใหม่ไปเพียง 16 SKU รวมถึงเปิดตัวสเปรย์พ่นจมูกป้องกันหรือยับยั้งเชื้อโควิด-19 ในไตรมาส 3/65 ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มสุขภาพที่ต้องการรุกขยายไปจากปัจจุบันที่สัดส่วนยอดขายจากกลุ่มสกินแคร์ยังคงอยู่ในระดับ 80%

ทั้งนี้คาดกำไรไตรมาส 3/65 เติบโตจากไตรมาสก่อน และเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจะต่อเนื่องไปยังไตรมาส 4/65 และปี 66 ตามภาพรวมยอดขายที่จะกลับมาใกล้ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แนะนำราคาเป้าหมาย 11.20 บาท

Back to top button