FPI บวกแรง 7% ส่งซิก Q3 โตดี! รับออเดอร์ซาอุฯ พุ่ง โบรกเชียร์ซื้อเป้า 4.60 บาท

FPI บวกแรง 7% ส่งซิก Q3 โตดี! รับออเดอร์ซาอุฯ พุ่ง มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 2.5 พันล้านบาท ตุนแบ็กล็อกทะลุ 1,000 ล้านบาท โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 4.60 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ต.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ณ เวลา 11:26 น. อยู่ที่ระดับ 3.72 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 6.90% สูงสุดที่ระดับ 3.76 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.40 ล้านบาท

โดยนายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2565 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2565 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงไตรมาส 2/2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 699.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 101.8 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นบริษัทประเมินว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 3/2565 น่าจะเติบโตที่ประมาณ 20-30% จากไตรมาสก่อน

โดยปัจจัยบวกมาจากการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในทวีปเอเชียและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะยอดขายจากในประเทศซาอุดีอาระเบียที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 2/2565 มีสัดส่วนยอดขายจากประเทศดังกล่าวที่ 55% ประกอบกับบริษัทได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้บริษัทเตรียมจะประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณางบไตรมาส 3/2565 ในช่วงวันที่ 11 หรือ 12 พฤศจิกายนนี้

“เราเริ่มมีออเดอร์จากประเทศซาอุดีอาระเบียเข้ามาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม และเริ่มทยอยส่งของในช่วงปลายเดือนสิงหาคม โดยในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมามีการส่งของเยอะมาก เพราะในช่วงเดือนกันยายนค่าระวางเรือลดลงแรงมาก ลูกค้ามีการสั่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเดือนกันยายนบริษัทได้มีการส่งสินค้าไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย มูลค่าประมาณ 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณเกือบ ๆ 100 ล้านบาท ทำให้ยอดขายในช่วงไตรมาส 3/2565 ของเราดี” นายสมพล กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ค่าระวางเรือลดลงเกือบ 50% ซึ่งค่าระวางเรือในช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนที่ผ่านมาต่างกันประมาณ 50% ทำให้มียอดคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นของลูกค้านั้น ก็เพื่อเป็นการเฉลี่ยต้นทุน หลังจากในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการสั่งซื้อสินค้าในราคาต้นทุนค่าขนส่งที่สูง

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยบวกดังกล่าวจะยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อไตรมาส 4/2565 ด้วยเช่นกัน ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัทมีการขึ้นแม่พิมพ์ใหม่ ๆ ด้วย โดยล่าสุดบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวมมากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบงานในช่วงระยะเวลา 2 ปี

สำหรับภาพรวมในปี 2565 บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,136.92 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1-2/2565 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้จากการขายรวมแล้ว 1,239.91 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังก็ดีต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลบวกต่อบริษัท เนื่องจาก FPI มีการส่งออกประมาณ 86%

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า ขณะนี้ได้แนะนำ “ซื้อ” หุ้น FPI กำหนดราคาเป้าหมายที่ 4.60 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์รายได้ปี 2565 ไว้ที่ 2,642 ล้านบาท เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) และยังได้คาดการณ์กำไรปี 2565 ไว้ที่ 464 ล้านบาท เติบโต 41% จากปีก่อน และเติบโตทำ New High จากออเดอร์ในปัจจุบันที่ค่อนข้างแน่น ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วง High Season

โดยในปี 2565 บริษัทได้เซ็นสัญญาในการผลิตชิ้นส่วนโมเดลใหม่หลายราย (OEM) เช่น First-Tier TOYOTA, Ford, ETRANS, HG Robots และ THAIYARNYON เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทลูกที่อินเดียคาดจะพลิกมีกำไรภายในปีนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากออเดอร์ EV Scooter ที่ได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของรัฐบาลอินเดีย โดยออเดอร์ดังกล่าวจะเริ่มผลิตตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป

 

Back to top button