AU บวก 4% ลุ้น Q3 เทิร์นอะราวด์ จับตาทั้งปีกำไรแตะ 114 ล้าน โบรกแนะซื้อเป้า 12 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ต.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน)  หรือ AU ณ เวลา 15:15 น. อยู่ที่ระดับ 11.00 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.77% สูงสุดที่ระดับ 10.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40.89 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 9 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 22.00 บาท เมื่อวันที่ 13 ม.ค.65

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(25ต.ค.65) ว่า AU คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 37 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 13 ล้านบาทใน 3/64 และเติบโตเล็กน้อย 8% เทียบไตรมาสก่อนหน้าคาดรายได้อยู่ที่ 257 ล้านบาท (121% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, 9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) การเติบโตมาจากการฟื้นตัวหลังจากโควิด-19 ผ่อนคลายทำให้มีการกลับมารับประทานที่ร้านเพิ่มขึ้น และการขยายสาขา After You อยู่ที่ 45 สาขา (จาก 39 สาขาในไตรมาส 3/64 และ 43 สาขาในไตรมาส 2/65) และสาขา Mikka อยู่ที่ 112 สาขา (จาก 96 สาขาในไตรมาส 2/65) ช่วยชดเชยการปิดปรับปรุง Aftrer You สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งเป็นสาขาที่มียอดขายอันดับต้นๆ ของบริษัทได้

โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 64% แต่เพิ่มขึ้นจาก 51.7% ในไตรมาส 3/641 จากสัดส่วนรับประทานในร้านที่คาดจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60% อย่างไรก็ตามคาดจะเห็นค่าใช้จ่ายการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการเตรียมสำหรับขยายสาขาในปลายปีแนวโน้มยังดีต่อเนื่อง

ส่วนในไตรมาส 4 ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ยอดขายอาจจะชะลอตัวเล็กน้อยจากผลกระทบจากฝนตกและน้ำท่วม แต่สำหรับไตรมาส 4/65 คาดจะยังคงมีแนวโน้มที่ดี เทียบไตรมาสก่อนหน้า, เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 1. การเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุด การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว, 2.แผนการขยายสาขาในไตรมาส 4/65 สาขา After You เซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งเป็นสาขายอดขายอันดับต้นๆ จะกลับมาเปิดให้บริการในธันวาคม แผนการเปิดสาขาใหม่ อาทิ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 65 เปิดสาขา Terminal 21 พระราม 3, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ภายในพฤศจิกายน, สนามบินสุวรรณภูมิ เซ็นทรัลพิษณุโลกและขอนแก่นภายในสิ้นปี 65, 3. Mikka ปัจจุบัน 112 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีสาขาที่อยู่ระหว่างลงนามและก่อสร้างคาดจะอยู่ที่ 160 สาขา จากแผนการขยายสาขาจะเห็นผลชัดจนในปี 66

ดังนั้นคาดจะทำให้กำไรสุทธิฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 65-66 คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย (CAGR 3 ปี 65-68) ที่ 36% ต่อปี ด้วยกำไรสุทธิปี 65 อยู่ที่ 114 ล้านบาท  เทียบ 4 ล้านบาทในปี 64 และปี 66 อยู่ที่ 188 ล้านบาท โต 65% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 67 อยู่ที่ 240 ล้านบาท โต27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสมที่ 12 บาท