TEKA เด้ง 2% หลังคว้างานสร้าง “นิว เมกา พลัส บางนา” มูลค่า 955 ลบ. ดันรายได้ปีนี้โต 30%
TEKA รีบาวด์ 2% เดินหน้ารับงานก่อสร้างโครงการ “นิว เมกา พลัส บางนา” มูลค่า 955 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างพ.ย.นี้ ตุนแบ็กล็อกในมือแน่น 2.5 พันล้าน ตอกย้ำความเชื่อมั่น จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป มั่นใจรายได้ปีนี้โต 30%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ต.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA ณ เวลา 11:10 น. อยู่ที่ระดับ 3.50 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 2.34% สูงสุดที่ระดับ 3.54 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.6 ล้านบาท
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่าบริษัทได้รับงานก่อสร้างใหม่ โครงการ นิว เมกา พลัส บางนา (NUE Mega Plus Bangna) คอนโด High Rise โครงการใหม่สูง 38 ชั้น ทำเลติดถนนบางนา-ตราด และห้าง Mega Bangna ของบริษัท คอนติเนนตัล ซิตี้ จำกัด (นิติบุคคลในเครือ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE
โดยลักษณะงานวิศวกรรมโครงสร้างพร้อมงานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร มูลค่า 955,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาก่อสร้าง 26 เดือน จะเริ่มต้นก่อสร้างพฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้การที่บริษัทได้รับงานใหม่ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความไว้วางใจของคู่ค้าที่มีให้กับบริษัท สนับสนุนให้ TEKA มีมูลค่างานในมือ (Backlog) พุ่งแตะกว่า 2,479.34 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
อีกทั้ง เดินหน้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐบาล และเอกชน รับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายการลงทุนตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งงานอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่ ขณะที่แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมเข้าสู่กราฟขาขึ้น หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีการเร่งเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก
นอกจากนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่คืบหน้ามากขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมตลาดก่อสร้างในช่วงโค้งสุดท้ายของปีคึกคัก และคาดจะดีต่อเนื่องในปีหน้า
“บริษัทมีความพร้อมในการดำเนินงานอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งด้านการจัดการแรงงาน และการบริหารต้นทุนที่ดี เพื่อส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ให้แก่ลูกค้าของเราตามกำหนดเวลาที่วางไว้ อีกทั้ง เงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) ในช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา สนับสนุนให้เรามีความแข็งแกร่งในการรับงานโครงการขนาดใหญ่ และมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้ จะเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่กว่า 1,600 ล้านบาท” นายวีระศักดิ์ กล่าว