THCOM บวกแรง 5% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 12.20 บาท ลุ้นกำไร Q3 นิวไฮ แตะ 355 ล้าน
THCOM บวกแรง 5% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 12.20 บาท ลุ้นกำไรไตรมาส 3/65 นิวไฮ แตะ 355 ล้าน เพิ่มขึ้น 144% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยบวกจากบาทอ่อน พร้อมจับตาไตรมาส 4/65 กำไรโตต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 พ.ย65) ราคาหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ณ เวลา 14:45 น. อยู่ที่ระดับ 12.30 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 5.13% สูงสุดที่ระดับ 12.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 251.88 ล้านบาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า THCOM คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 จะทำจุดสูงสุดของปีที่ 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน สำหรับโมเมนตัมกำไรปกติไตรมาส 4/65 ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/65 โดยรายได้รอปัจจัยบวกจากการขยายบริการใหม่ ๆ ที่จะทยอยสร้างรายได้มากขึ้น
ดังนั้นจึงยังคงกำไรปี 65 ที่ 278 ล้านบาท และกำไรปี 66 ที่ 471 ล้านบาท โดยประเมิน upside หลังจากนี้จะอยู่ที่การประมูลวงโคจรดาวเทียมที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าทั้งนี้ ถ้า THCOM ชนะมากกว่า 1 ใบอนุญาต จะมีผลทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่ม 1 บาท จากราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 11 บาท เพราะได้อานิสงส์บาทอ่อน คาดกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน 255 ล้านบาท
โดยหากไม่รวมรายการดังกล่าว คาดกำไรปกติที่ 100 ล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุน 61 ล้านบาท ในไตรมาส 3/64 และกำไร 54 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 โดย เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โตแรง เพราะได้อานิสงส์หมดสัมปทานตั้งแต่ก.ย. 2564 ดังนั้นต้นทุนสัมปทาน (D&A) จะหายไป 49% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มากกว่ารายได้บริการ คาดอัตรากำไรขั้นต้นพุ่งขึ้นเป็น 48.5% จาก 29.1% ส่วน เทียบไตรมาสก่อนหน้า กำไรจะปรับขึ้น 57% เพราะบริษัทมือถือในสปป.ลาวจะขาดทุนลดลงเหลือ 46 ล้านบาท จาก 100 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 ตามฐานลูกค้าที่เพิ่มต่อเนื่อง และเงินกีบอ่อนค่าน้อยลง
ด้านรายได้ไตรมาส 3/65 ที่ 710 ล้านบาท ลดลง 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้บริการลดลงเพราะไม่มีรับรู้รายได้ก้อนใหญ่เหมือน ไตรมาส 3/64 ที่มีบันทึกคำสั่งพิเศษจากลูกค้าในออสเตรเลีย 120 ล้านบาท และดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 มีลูกค้ากลุ่มบรอดแบนด์ใช้น้อยลง โดยคาด EBITDA margin จะดีขึ้นเป็น 42.9% จากไตรมาส 3/64 ที่ 36.8% เพราะต้นทุนสัมปทานและค่าเสื่อมดาวเทียม TC4/6 หายไป หนุนอัตรากำไรขั้นต้น หรือ GPM จะปรับขึ้นเป็น 48.5% จาก 29.1%
ส่วนคาด GPM ทรงตัว คาดส่วนแบ่งของผลการดำเนินงานธุรกิจมือถือในสปป.ลาวขาดทุน 46 ล้านบาท น้อยลงจาก 67 ล้านบาท ในไตรมาส 3/64 และขาดทุน 104 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 หนุนจากฐานลูกค้ามือถือในสปป.ลาวที่โตต่อเนื่อง จาก 1.86 ล้านราย ใน 9 เดือนแรกของปีก่อน และ 2.16 ล้านราย ในครึ่งปีแรกปี 65 และผลบวกทางอ้อมจากค่าเงินบาทอ่อนค่าน้อยลง รวมทั้งรายการพิเศษ คาดกำไรจากบาทอ่อน 255 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/65
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/65 กำไรปกติที่ 100-120 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส3/65รอปัจจัยบวกเพิ่มจากบริการใหม่ ๆ และประมูลดาวเทียม หากกําไรปกติไตรมาส 3/65 เป็นตามคาด ภาพรวมกำไรปกติ 9 เดือนแรกจะคิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี โดยธุรกิจดาวเทียมคาดรายได้ทรง ๆ รอปัจจัยบวกจากบริการใหม่ที่จะทยอยสร้างรายได้มากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นปีหน้า เช่น บริการ tracking สำหรับนักท่องเที่ยวร่วมกับดาวเทียม Globalstar บริการ Geospatial Analytics platform สำรวจภูมิศาสตร์ร่วมกับแพลตฟอร์มของ Orbital insight เป็นต้น ด้าน margin คาดทรง เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยอาจมีผลบวกเพิ่มเล็กน้อยจากธุรกิจมือถือในสปป.ลาวที่คาดจะขาดทุนน้อยลงหลังค่าเงินกีบเริ่มทรงตัวได้ ส่วนปีหน้าบริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด หรือ LTC จะรับรู้รายได้บริการเสริมการเงิน (mobile money)
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ราคาเป้าหมาย THCOM ไว้ที่ 12.20 บาท ขณะที่ consensus ประมาณการรายได้ปี 65 ที่ 2.81 พันล้านบาท และรายได้ปี 66 คาด 2.61 พันล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 65 ที่ 313 ล้านบาท และกำไรปี 66 ที่ 350 ล้านบาท