RCL ทะยาน 9% หลังโชว์กำไร Q3 โต 72% แตะ 6.4 พันลบ. รับค่า BDI พุ่ง
RCL กระฉูด 9% หลังรายงานกำไร Q3/65 โต 72% แตะ 6.4 พันลบ. รับค่า BDI พุ่ง ดันงวด 9 เดือนกำไร 2.20 หมื่นลบ. โต 123% จากปีก่อนกำไร 9.86 พันลบ.
บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยปัจจัยสำคัญมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากอัตราค่าระวาง (ร้อยละ 74) ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 47 โดยปริมาณการขนส่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในขณะที่อัตราค่าระวางเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 67 จากปีก่อนหน้า สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2565 กำไรสุทธิของบริษัทฯ ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 6,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,697 ล้านบาท หรือร้อยละ 72 จากไตรมาสที่ 3 ปี 2564
อีกทั้งรายได้รวมสำหรับไตรมาสนี้ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 53 โดยปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ขณะที่ต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ลดลงมาอยู่ที่ 6,428 ล้านบาท จาก 7,358 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 13 โดยมีปัจจัยหลักมาจากต้นทุน โดยเฉพาะค่าน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้ต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในขณะที่อัตราค่าระวางเฉลี่ยต่อตู้ปรับลดลงร้อยละ 4 โดยปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ในไตรมาสที่ 3 เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเล ได้แก่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอย่างรุนแรงการล็อกดาวน์จากโควิด-19 อย่างต่อเนื่องในบางพื้นที่ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ซึ่งปัจจัยลบเหล่านี้นำไปสู่การปรับตัวที่ลดลงของอัตราค่าระวางและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษารายได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ไว้ที่ 14,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ด้วยการจัดการเส้นทางบริการใหม่อย่างรอบคอบระมัดระวัง นอกจากนี้รายได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ได้รวมกำไรพิเศษจำนวน 770 ล้านบาท จากการขายสินทรัพย์
พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลเป็นเงินสด 2.25 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์ปันผล (XD) วันที่ 24 พ.ย.65 และกำหนดวันจ่ายปันผล 9 ธ.ค.65
ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุด ณ เวลา 14:53 น. อยู่ที่ระดับ 31.25 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 8.70% สูงสุดที่ระดับ 31.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 28.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 383.59 ล้านบาท