น้ำมันดิบปิดลบ ตลาดวิตกอุปทานพลังงานสูงขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.5% ปิด (19 พ.ย.) ที่ 40.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 44.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไปนั้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมันนิวยอร์ก โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. เพิ่มขึ้น 252,000 บาร์เรล สู่ระดับ 487.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 56.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 214.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล นอกจากนี้ EIA ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ดังกล่าว ปรับตัวขึ้น 3,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.182 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า อุณหภูมิในช่วงฤดูหนาวปีนี้อาจจะไม่ปรับลดลงมากนัก เนื่องจากอิทธิพลของปรากฎการณ์เอล นีโญ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ความต้องการพลังงานในสหรัฐและยุโรปซบเซาลงด้วย