PLUS บวกแรง 6% ย้ำเป้ารายได้ปี 65 นิวไฮ แตะ 1.5 พันลบ. รับออเดอร์พุ่ง
PLUS บวกแรง 6% ย้ำเป้ารายได้ปี 65 นิวไฮ แตะ 1.5 พันล้านบาท รับออเดอร์พุ่ง-บุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ ฟาก 9 เดือนโกยรายได้ทะลุ 1.2 พันล้าน ดันกำไรโตเกือบ 2 เท่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS ณ เวลา 15:06 น. อยู่ที่ระดับ 9.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 5.71% สูงสุดที่ระดับ 9.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58.74 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ PLUS เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 177.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.4 ล้านบาท หรือ 191.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 60.7 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,215.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 450.3 ล้านบาท หรือ 58.8% โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 367.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.1% จากการเติบโตของยอดขาย
“ภาพรวมการเติบโตของรายได้รวมในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2564 มากถึง 85.8% โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มน้ำมะพร้าวและนมมะพร้าว เนื่องจากการลดราคาของค่าระวางเรือและพื้นที่สายเรือดีขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มทวีปอเมริกา กอปรกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสูงสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งเป็นปัจจัยบวกทำให้รายได้รวมเติบโตสูงกว่าเป้าหมาย” นายพลแสง กล่าว
โดยปัจจุบัน PLUS มีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศกว่า 99% กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชีย ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น พร้อมเตรียมบุกตลาดขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคมากขึ้น โดยจุดเด่นของ PLUS ดึงเอกลักษณ์ของน้ำมะพร้าวของดีขึ้นชื่อเมืองไทย ที่มาพร้อมรสชาติสุดพิเศษ กลั่นกรองด้วยการผลิตนวัตกรรมชั้นเลิศ พร้อมโปรดักส์ใหม่ เครื่องดื่มที่ทำจากพืช (Plant-Based) หรือเครื่องดื่มโปรตีนจากพืชต่อยอดการเติบโต เช่น “โคโคนัท โยเกิร์ต” ผลิตจากน้ำนมมะพร้าวที่มาจากธรรมชาติ 100% ตอบโจทย์เทรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อน ยังคงเป้าหมายตามแผน เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ผ่อนคลาย ภาพรวมการบริโภคในประเทศ และการส่งออกคึกคัก ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อกลับเข้ามารับความต้องการผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศใหม่มากขึ้น และลงทุนในระบบเทคโนโลยีและเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายตลาดใหม่สอดรับเทรนด์อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จะเติบโตในอนาคต