TOP คาด GRM ปี 59 ราว 8-10 เหรียญฯ ทุ่ม 100 ล้านเหรียญฯลงทุน LAB-โรงไฟฟ้า

TOP คาด GRM ปี 59 ราว 8-10 เหรียญฯ ทุ่ม 100 ล้านเหรียญฯลงทุน LAB-โรงไฟฟ้า


นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า บริษัทคาดค่าการกลั่น (GRM) ในปี 59 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10 เหรียญ/บาร์เรล จากปีนี้น่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 เหรียญ/บาร์เรล เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง โดยประเมินราคาน้ำมันดิบปีหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 50-55 เหรียญ/บาร์เรล และปีนี้ที่ 45-50 เหรียญ/บาร์เรล

อีกทั้งบริษัทคาดจะดำเนินการก่อสร้างโครงการ LAB แล้วเสร็จได้ในไตรมาส 1/59 โดยปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 99% ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่าง TPX กับ Mitsui สัดส่วนการถือหุ้น 75:25 และในเบื้องต้นหากโรงงานก่อสร้างเสร็จจะส่งผลให้ GRM เพิ่มขึ้นราว 0.4-0.6 เหรียญ/บาร์เรล วางงบลงทุนต่อเนื่องจากปีนี้ ไว้ราว 100 ล้านเหรียญฯ เพื่อใช้ในโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ ธุรกิจโรงไฟฟ้าภายใต้ชื่อ TOPSPP คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในช่วงไตรมาส 2/59 หรือเดือนเม.ย.59 และ มิ.ย.59 ตามลำดับ โดยแบ่งเป็น 2 เฟส กำลังการผลิตรวม 239 เมกะวัตต์ เมื่อโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จและจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบก็จะสามารถรับรู้เป็นผลกำไรเข้ามาทันที

นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจเข้าลงทุนธุรกิจในต่างประเทศ หลังจากธุรกิจในประเทศเติบโตแข็งแรงแล้ว โดยมีความสนใจลงทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ เช่น พม่า จากก่อนหน้านี้ก็ได้ยุติแผนการลงทุนโรงกลั่นในพม่าไป เนื่องจากทางรัฐบาลพม่าอยากได้โรงกลั่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงพักการลงทุนไว้ก่อน แต่หากพม่ายังมีความต้องการสร้างโรงกลั่น ทางบริษัทก็น่าจะเป็นสามารถคว้าโอกาสได้ในอนาคต

ส่วน Clean Fuel Project (CEP)หรือโครงการการเพิ่มมูลค่าน้ำมันเตา ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างศึกษา คาดว่าจะสรุปแผนการลงทุนได้ในปี 60 โดยจะต้องมีผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 15% และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนในปี 64 ก็จะถือว่าบริษัทฯจะมีโรงกลั่นที่ทัดเทียมได้กับบริษัทอันดับหนึ่งของโลกในเอเชียแปซิฟิก

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมในปี 59 มองว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น โดยอุปทานและอุปสงค์จะใกล้เคียงกัน จากอัตราการผลิตน้ำมันของกลุ่มนอกโอเปคจะชะลอตัวลงจากปีก่อนราว 6 แสนบาร์เรล/วัน แต่ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในประเทศจีน ประมาณ 3 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจีนมีแผนจะนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 6% เนื่องด้วยจีนมีแผนสำรองน้ำมันตามยุทธศาสตร์ภายในปี 63 สูงถึง 500 ล้านบาร์เรล

อีกทั้งอิหร่านจะส่งเสริมการผลิตน้ำมันมากขึ้นทำให้เกิดอุปทานส่วนเกินขึ้นมาบ้างเล็กน้อย และการส่งออกก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ทางสหรัฐฯจะมีการขุดเจาะน้ำมันลดลง คาดว่าจะลดลงเฉลี่ยในปี 59 ราว 3 แสนบาร์เรล/วัน แต่โดยรวมแล้วในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า ปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้น 5-7 แสนบาร์เรล/วัน

ขณะที่มองแนวโน้มในไตรมาส 4/58 บริษัทฯคาดมีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรจากสต็อกน้ำมัน หากราคาน้ำมันไม่ต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล หลังไตรมาส 3/58 มีการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันราว 2.29 พันล้านบาท จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง

Back to top button