EPG ตั้งเป้ารายได้งวดปี 59/60 โต 20% ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เล็งลดถือหุ้นเหลือ 70%

EPG ตั้งเป้ารายได้งวดปี 59/60 โต 20% แตะ 1 หมื่นลบ. เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรมากกว่า 5 ราย เพื่อเข้าซื้อกิจการตปท. วางงบลงทุนภายใน 2 ปี ราว 1.25 พันลบ. เผยกลุ่มวิทูรปกรณ์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เล็งลดถือหุ้นเหลือ 70% จากเดิม 75% เพื่อเพิ่มฟรีโฟลต


นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจและการลงทุน ของบริษัท อีสเทิร์น โพลีเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 59/60 (เม.ย.59-มี.ค.60) แตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 20% จากเป้าหมายปี 58/59 ที่ราว 8.5-9 พันล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็นระดับ 1.3 หมื่นล้านบาท ในงวดปี 60/61 (สิ้นสุด มี.ค 61) ซึ่งมาจากการเติบโตของ 3 ธุรกิจหลัก คือ ฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX, ชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS และบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ EPP ซึ่งปัจจุบันมัสัดส่วนรายได้ 31% ,39% และ 30% ตามลำดับ

ขณะที่มองตลาดในประเทศและต่างประเทศยังสามารถเติบโตไปได้ตามอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมและบริหารต้นทุนในการผลิต เพื่อให้อัตรากำไรสุทธิและอัตราขั้นต้นเติบโตดีขึ้น โดยสิ้นปีนี้จะยังคงรักษาระดับไว้ที่ 16.4% และ 32.9% ตามลำดับ ซึ่งจะอยู่ในระดับเดียวกับครึ่งปีแรก

นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้จาก TJM Producr PTY Ltd. (TJM)  ที่บริษัททำการเข้าซื้อกิจการมา โดยครึ่งปีแรกรับรู้รายได้ประมาณ 468 ล้านบาท เละมองว่าครึ่งปีหลังน่าจะมีรายได้เข้ามาใกล้เคียงกัน 

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรมากกว่า 5 ราย เพื่อเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ โดยจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 รายในปี 59

สำหรับแผนการลงทุนนั้น บริษัทวางงบภายใน 2 ปี (งวดปี 59/60 -60/61) ไว้ราว 1,250 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ลงทุนในปี 59/60 ในธุรกิจ AEROKLAS 250 ล้านบาท และใช้ในธุรกิจ EPP จำนวน 200 ล้านบาท และในปี 60/61 จะใช้เงินลงทุนราว 750 ล้านบาท แบ่งใช้ในธุรกิจ AEROFLEX 600 ล้านบาท และอีก150 ล้านบาท จะใช้ในธุรกิจ AEROKLAS

ส่วนแผนการเพิ่มสภาพคล่องปริมาณการซื้อขายหุ้น (ฟรีโฟลต) ของบริษัทจะเริ่มพิจารณาได้หลังจากที่บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯครบ 1 ปี ในวันที่ 24 ธ.ค.58 ซึ่งคาดว่าจะกำหนดนโยบายดังกล่าวได้ต้นปี 59 โดยปัจจุบันมีกองทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเจรจามากกว่า 5 รายแล้ว และคาดหวังจะลดสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มวิทูรปกรณ์ เหลือ 70% จากเดิมที่ถืออยู่ 75%

“เราจะกำหนดนโยบายฟรีโฟรตได้ก็ต้นปี 59 ซึ่งส่วนตัวอยากให้เหลือ 70% จาก 75% แต่ก็ต้องคุยกันภายในครอบครัวก่อนว่ามีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่ ขณะที่ก็มีกองทุนมาสนใจมากกว่า 5 รายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งยังไม่สรุปว่าจะขายให้ทั้งหมดหรือไม่ โดยมองการเพิ่มสภาพคล่องจะทำให้บริษัทฯเติบโต ซึ่งมีแผนที่จะย้ายเข้าไปซื้อขายใน SET100 ภายใน 2 ปีข้างหน้า และภายใน 3 ปีจะย้ายเข้าไปใน SET50 “นายเฉลียว กล่าว

Back to top button