กทค. เตรียมพิจารณาการคุมค่าบริการ 4G บนคลื่น 1800 MHz พรุ่งนี้
บอร์ด กทค. เตรียมพิจารณาแนวทางตรวจสอบค่าบริการ 4G บนคลื่น 1800 MHz วันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) โดยจะคำนวณอัตราค่าบริการเฉลี่ยบนย่าน 2100 MHz ใช้เป็นฐานสำหรับการกำกับดูแลอัตราค่าบริการบนย่าน 1800 MHz และ 900 MHz
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้การประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 31/2558 มีวาระสำคัญที่น่าจับตา ได้แก่ เรื่องแนวทางการตรวจสอบอัตราค่าบริการตามหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz และเรื่องแนวทางการทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานกำกับดูแลความปลอดภัยต่อสุขภาพของมนุษย์จากการใช้เครื่องวิทยุคมนาคม
สำหรับวาระเรื่องแนวทางการตรวจสอบอัตราค่าบริการตามหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz หลังจากที่การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 2 ใบอนุญาต สิ้นสุดลงด้วยเงินประมูลที่สูงถึง 80,778 ล้านบาท ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเกิดความกังวลว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะผลักภาระต้นทุนมายังผู้บริโภคผ่านการขึ้นอัตราค่าบริการหรือไม่ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ผู้ให้บริการไม่สามารถคิดค่าบริการแพงกว่าอัตราเฉลี่ยในปัจจุบันได้
ทั้งนี้เนื่องจากในการจัดประมูลคลื่นความถี่ สำนักงาน กสทช. ได้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz ที่เพิ่งมีการจัดประมูลเสร็จสิ้นไป และประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz ซึ่งกำลังจะมีการจัดประมูลเดือนในธันวาคม
โดยประกาศทั้งสองฉบับได้ระบุเงื่อนไขไว้ด้วยว่า “ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีบริการที่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการกำหนดอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค มีความชัดเจน และการให้บริการที่มีคุณภาพ” ซึ่งผู้รับใบอนุญาตจะต้องกำหนดอัตราค่าบริการทั้งบริการเสียงและบริการข้อมูลเฉลี่ยต่ำกว่าอัตราค่าบริการเฉลี่ยของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz และต้องจัดให้มีรายการส่งเสริมการขายอย่างน้อย 1 รายการที่ส่งเสริมและเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการได้ โดยรายการส่งเสริมการขายนี้ต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงด้วย
สำหรับวาระนี้ สำนักงาน กสทช. ได้จัดทำแนวทางการตรวจสอบอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อให้เป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ทั้งสองฉบับ โดยสำนักงาน กสทช. ได้คำนวณอัตราค่าบริการเฉลี่ยของการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนย่าน 2100 MHz ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2558 เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับการกำกับดูแลอัตราค่าบริการบนย่าน 1800 MHz และ 900 MHz ซึ่งผลการคำนวณอัตราค่าบริการประเภทเสียงอยู่ที่นาทีละ 0.72 บาท บริการ SMS อยู่ที่ข้อความละ 1.24 บาท บริการ MMS อยู่ที่ข้อความละ 2.93 บาท และบริการ Mobile Internet อยู่ที่เมกะไบต์ละ 0.26 บาท
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า อัตราค่าบริการที่สำนักงาน กสทช. คำนวณได้ในบางรายการ มีอัตราค่าบริการสูงกว่าอัตราค่าบริการเฉลี่ยเมื่อสิ้นปี 2557 เสียอีก ทั้งนี้ตามรายงานติดตามตรวจสอบและกำกับค่าบริการสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่านความถี่ 2100 MHz ฉบับประจำเดือนธันวาคม 2557 ระบุว่า อัตราค่าบริการประเภทเสียงอยู่ที่นาทีละ 0.66 บาทเท่านั้น ส่วนอัตราค่าบริการ Mobile Internet อยู่ที่เมกะไบต์ละ 0.23 บาท จึงเป็นประเด็นที่น่าเคลือบแคลงว่าเหตุใดในการคำนวณครั้งนี้กลับมีราคาที่แพงขึ้น ทั้งที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าอัตราค่าบริการของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผ่านมามีแนวโน้มถูกลงมาโดยตลอด
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน สำนักงาน กสทช. ก็ควรเปิดเผยต่อสาธารณะถึงวิธีการคำนวณอัตราค่าบริการเฉลี่ยโดยละเอียด รวมทั้งรายการส่งเสริมการขายทั้งหมดที่นำมาคำนวณด้วย จะได้ขจัดข้อครหาเรื่องการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ให้บริการ หรือการไม่คุ้มครองผู้บริโภคอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ หากสำนักงาน กสทช. ยังคงเลือกใช้แนวทางการคำนวณอัตราค่าบริการเฉลี่ยในรูปแบบเดิม ในการคำนวณอัตราค่าบริการเฉลี่ยของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนย่าน 2100 MHz ครั้งนี้ ก็ควรมีการปรับปรุงให้มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเคยมีนักวิชาการชี้จุดบกพร่องในหลายประเด็น เช่น การคำนวณอัตราค่าบริการประเภทเสียงของรายการส่งเสริมการขายประเภทเหมาจ่ายตามช่วงเวลา (Buffet)
โดยมีการคำนวณโดยนำอัตราค่าบริการมาหารเฉลี่ยนาทีทั้งหมดตามรายการส่งเสริมการขาย ซึ่งทำให้ผลลัพธ์การคำนวณที่ได้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะพฤติกรรมการใช้บริการโดยปกติของคนทั่วไปไม่ได้ใช้งานทุกนาทีอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาดังกล่าว หรือการคำนวณอัตราค่าบริการโดยอาศัยเพียงข้อมูลอัตราค่าบริการของรายการส่งเสริมการขายแต่ละรายการโดยไม่มีการถ่วงน้ำหนัก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว รายการส่งเสริมการขายในแต่ละรายการมีจำนวนผู้ใช้บริการมากน้อยแตกต่างกัน เป็นต้น ดังนั้นสำนักงาน กสทช. ควรปรับปรุงแนวทางในครั้งนี้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บริการตามวัตถุประสงค์ของประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ได้อย่างแท้จริง