แรงขายหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวลง อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิด (23 พ.ย.) ที่ 380.37 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,889.12 จุด ลดลง 21.85 จุด หรือ -0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,092.31 จุด ลดลง 27.52 จุด หรือ -0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,305.49 จุด ลดลง 29.14 จุด หรือ -0.46%
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง โดยหุ้นอันโตฟากัสต้า ดิ่งลง 2.4% หุ้นเกลนคอร์ ร่วงลง 2.2% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 1.7%, หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง โดยหุ้นโททาล ร่วงลง 1.1% หุ้นบีจี กรุ๊ป ปรับลง 0.7%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนพ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 54.4 จากระดับ 53.9 ในเดือนต.ค. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 54 เดือน
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 52.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 19 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย.ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 54.6 สูงสุดในรอบ 54 เดือน โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจมีการขยายตัว ส่วนตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว