SIRI บวก 3% รับยอดขาย 11 เดือนทะลัก 4.6 หมื่นลบ. ลุ้นปีนี้นิวไฮแตะ 5 หมื่นลบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ธ.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ณ เวลา 12:12 น. อยู่ที่ระดับ 1.81 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 2.84% สูงสุดที่ระดับ 1.81 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 432.17 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ระดับ 2.72 บาท

โดยก่อนหน้านี้ นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายในปี 2565 ได้ถึง 50,000 ล้านบาท หลังยอดขายรอบ 11 เดือนที่ผ่านมาพุ่งสูงถึง 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบ 31,300 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 14,700 ล้านบาท โดยเฉพาะไตรมาส 3/2565 สร้างผลงานที่โดดเด่นมียอดขายล่าสุดสูงถึง 18,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 200% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเติบโตกว่า 153% จากไตรมาส 2/2565

โดยยอดขายไตรมาสที่ 3 ทุบสถิติสูงสุดใหม่ (New High) สร้างยอดขายสูงที่สุดในไตรมาสเดียวในรอบ 3 ปีนับจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้จากความสำเร็จจากการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจน ทั้งบ้านเดี่ยวและมิกซ์โปรดักส์ที่เติบโตขึ้น 35% และคอนโดมิเนียมที่เติบโตขึ้นกว่า 32% และคาดว่าจะทำผลงานที่ดีที่สุดมากขึ้นอีกในไตรมาสที่ 4/2565นี้

ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ FLO by Sansiri (โฟล บาย แสนสิริ) คอนโดมิเนียมใหม่วิวแม่น้ำ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สร้างยอดขายไปถึง 300 ยูนิต หรือคิดเป็น 60% ในวันพรีเซลล์ นอกจากนี้ บริษัทยังเริ่มกลับมารุกตลาดต่างจังหวัด โดยเปิดตัวโครงการ “เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น” คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ใจกลางเมืองขอนแก่น กับห้องแต่งครบ เปิดให้ชมห้องตัวอย่างในเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมาปรากฏว่าได้รับความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริและได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มลูกค้าตลาดต่างจังหวัด สร้างยอดขายโครงการคิดเป็น 80% ของยูนิตที่เปิดขาย

นายอุทัย  กล่าวต่อว่า ล่าสุดบริษัทเตรียมสร้างปรากฏการณ์เซตมาตรฐานบทใหม่แก่วงการอสังหาฯ เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์บ้านลักซ์ชัวรี่ในกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยการเปิดตัว 7 โครงการใหม่ ภายใต้พอร์ต Sansiri Luxury Collection รวมมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท นำร่องด้วยโครงการ “นาราสิริ พหล-วัชรพล” โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ที่เตรียมเปิดตัวต้นปี 2566 และ “บูก้าน” เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ รวม 3 โครงการ บน 3 ไพร์มโลเคชัน อาทิ บูก้าน กรุงเทพกรีฑา รวมถึงการเปิดตัวครั้งแรกของ 3 แบรนด์ใหม่ที่จะสร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการอสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่ ได้แก่ “No.19” (นัมเบอร์นายน์ทีน), “SIRINSIRI” (สิริณสิริ), “NARINSIRI” (ณรินสิริ) ที่รวบรวมที่สุดความลักซ์ชัวรี่ไว้ในหนึ่งเดียว ตอกย้ำผู้นำอันดับหนึ่งของแสนสิริในตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และลักซ์ชัวรี่ของประเทศไทย”

“ความสำเร็จจากการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมารวมถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจน ทำให้แสนสิริมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 50,000 ล้านบาท เติบโตถึง 49% จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 33,500 ล้านบาท และนับเป็นการสร้างยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 38 ปีนับแต่มีการก่อตั้งบริษัท ส่งผลถึงคาดการณ์ภาพรวมผลงานในปี 2565 ซึ่งแสนสิริจะมีการเติบโตที่โดดเด่น ทั้งยอดขาย รายได้ กำไร” นายอุทัย กล่าว