FORTH เด้งแรง 6% จับตา Q4 เด่น! รายได้ตู้เต่าบิน-อีเอ็มเอส พ่วงสมาร์ทเซอร์วิสหนุน
FORTH เด้งแรง 6% จับตาผลงานไตรมาส 4/65 เด่น! รายได้ตู้เต่าบิน-อีเอ็มเอส สมาร์ทเซอร์วิสหนุนแกร่ง พ่วงคว้างานใหม่ ดันผลงานโตเข้าเป้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (21 ธ.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ณ เวลา 11:14 น. อยู่ที่ระดับ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 6.03% โดยทำจุดสูงสุดที่ 30.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 28.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69.85 ล้านบาท ลุ้นผลงานไตรมาส 4/65 โตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนปี 65 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 234.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 150.59 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้รวม 2,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 682 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,077 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจอีเอ็มเอสและธุรกิจสมาร์ทเซอร์วิส
อีกทั้งมีรายได้จากธุรกิจอีเอ็มเอส 1,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 481 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 67 จากงวดเดียวกันของปีก่อน 722 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของคําสังซื้อของลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งของงานรับจ้างผลิตและประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และมีรายได้จากธุรกิจสมาร์ทเซอร์วิส 908 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากงวดเดียวกันของปีก่อน 678 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจตู้เต่าบิน
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/65 เมื่อวันที่ 11 พ.ย.65 มีมติอนุมัติการซื้อที่ดิน เป็นที่ดินโฉนดเลขที 5233 เลขที่ดิน 364 และโฉนดเลขที่ 5207 เลขที่ดิน 359 ตั้งอยู่ที่ตำบลไร่ขิง อำเภอตลาดใหม่ จังหวัดนครปฐม เนื้อที่รวมจำนวน 49-3-40 ไร่ ราคาซื้อขายเท่ากับ 338.98 ล้านบาท (ไร่ละ 6,800,000 บาท) ทั้งนี้ภาษีทั้งหมด ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นการโอนกรรมสิทธิ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ตกเป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย
โดยจะทำรายการภายในไตรมาส 4/65 ซึ่งแหล่งเงินมาจากเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ ทั้งนี้ การซื้อที่ดินดังกล่าวเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัท
นอกจากนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา FORTH แจ้งว่า กิจการค้าร่วม เอฟเอส คอนซอเตียม (FS Consortium) เป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการดังกล่าว โดยมีมูลค่างาน 309,663,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งปวง
โดยกิจการค้าร่วม เอฟเอส คอนซอเตียม ประกอบด้วย 1. FORTH รับผิดชอบดำเนินโครงการคิดเป็นสัดส่วน 53.45% ของมูลค่าโครงการ หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 165,514,873.50 บาท และ 2. บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA รับผิดชอบดำเนินโครงการคิดเป็นสัดส่วน 46.55% ของมูลค่าโครงการ หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 144,148,126.50 บาท
สำหรับการลงนามสัญญาว่าจ้างจะดำเนินการภายหลังจากที่บริษัทได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ประเมินว่า ผลประกอบการในปี 2565 ของ FORTH มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น จากปัจจัยหนุน ดังนี้ 1. การรับรู้รายได้จากตู้เต่าบิน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มลูกค้าโรงงาน และกลุ่มลูกค้าคอนโด โดยมองว่าตู้เต่าบินจะหนุนรายได้ในปี 2565 ประมาณ 2,000-2,300 ล้านบาทจากการขยายจุดบริการให้เป็น 10,000 ตู้ในปี 2565 และ 20,000 ตู้ในปี 2566
2.การกลับมาเติบโตของตู้บุญเติม แม้ว่ามูลค่าตลาดเติมเงินมือถือจะมีมูลค่าที่ลดลง แต่มองว่าจะถูกชดเชยจากมูลค่าการเติมเงิน e-Wallet ที่ยังมีการเติบโตที่สูง รวมถึงบริการใหม่ ๆ เช่น บริการถอนเงิน ที่คาดจะหนุนรายได้อย่างมีนัยสําคัญ
3.ธุรกิจอีเอ็มเอสที่มียอดออเดอร์จนถึงปลายปี 2565 คาดจะหนุนรายได้ให้เติบโต โดยรายได้ของธุรกิจอีเอ็มเอส 80% จะมาจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และอีก 20% จะมาจากบริษัทในเครือ โดยเฉพาะการผลิตตู้เต่าบินที่บริษัทต้องการขยายจุดบริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การจับมือกับบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ยังสร้างข้อได้เปรียบในเรื่องการลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการขยายสินค้าและบริการที่จะสามารถทําได้รวดเร็วขึ้น