วิกฤตตะวันออกกลางหนุนราคาทองคำปิดบวก 7 ดอลล์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.)โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข่าวความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกยิงตกในบริเวณชายแดนซีเรีย เนื่องจากการรุกล้ำน่านฟ้า


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิด (24 พ.ย.) ที่ระดับ 1,073.80 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 12.7 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 14.159 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 841.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 541.50 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานข่าวว่า เครื่องบินขับไล่ Su-24 ของรัสเซียถูกตุรกียิงตกลงใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวานนี้ เนื่องจากรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ประกาศจัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ โดยผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วยเอกอัคราชทูตจากสหรัฐ และประเทศสมาชิกนาโต้อีก 27 ประเทศ

ประธานาธิบดีตุรกีเปิดเผยว่า เครื่องบินที่ถูกยิงตกใกล้ชายแดนประเทศซีเรียนั้นเป็นเครื่องบินรัสเซียที่รุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี โดยเครื่องบิน Su-24 ได้รับการเตือนถึง 10 ครั้งภายในเวลา 5 นาทีว่าได้ล่วงล้ำน่านฟ้าของตุรกี ก่อนที่เครื่องบินไอพ่น F-16 ของตุรกีจะเข้าสกัด

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนหลังจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

Back to top button