ดอลล์ปรับลง ขณะสถานการณ์ตะวันออกกลางตึงเครียด
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรหลังการทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียและตุรกี
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0650 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0623 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5087 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5119 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 122.46 เยน จาก 122.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0152 ฟรังก์ จาก 1.0193 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7246 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7186 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินที่มีความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงเงินเยนญี่ปุ่นและฟรังก์สวิส เนื่องจากมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากเครื่องบินรบของรัสเซียลำหนึ่งถูกกองทัพของตุรกียิงตกใกล้กับชายแดนของซีเรีย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีตุรกีเปิดเผยว่า เครื่องบินที่ถูกยิงตกใกล้ชายแดนประเทศซีเรียนั้นเป็นเครื่องบินรัสเซียที่รุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี ขณะที่รัสเซียยืนยันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าแต่อย่างใด
ส่วนข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 นั้น แทบไม่ได้ส่งผลต่อดอลลาร์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.5% ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2 แต่สูงกว่าระดับ 0.6% ในไตรมาสแรก ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการขยายตัวของ GDP ล่าสุดไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนดอลลาร์ให้ปรับตัวขึ้น