BCP ดีด 6% รับข่าวเทกฯ ESSO ต่ำกระดาน ดันสาขา “ปั๊ม” เทียบชั้น OR

BCP เด้ง 6% รับข่าวเทกโอเวอร์ ESSO สัดส่วน 65.99% หุ้นละ 8.84 บาท รวมมูลค่า 3 หมื่นล้าน จ่อเทนเดอร์อีก 34% มูลค่ารวม 5.5 หมื่นล้านบาท โบรกมอง “ซินเนอร์ยี่” ใหญ่ดันสาขา “ปั๊ม” เฉียด 2,000 สาขา เทียบชั้น OR


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ม.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ณ เวลา 10:02 น. อยู่ที่ระดับ 33.75 บาท บวก 2 บาท หรือ 6.30% สูงสุดที่ระดับ 34.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 328.28 ล้านบาท

โดยวันนี้ BCP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบให้บริษัททำการเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรง จำนวน 2,283,750,000 หุ้นใน ESSO หรือคิดเป็นประมาณ 65.99% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของเอสโซ่ จากบริษัท Exxon Mobil Asia Holdings Pte.Ltd. โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ขายเมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 และต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของเอสโซ่ จำนวนไม่เกิน 1,177,108,000 หุ้น หรือคิดเป็น 34.01% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของเอสโซ่ ในราคาเดียวกับราคาซื้อหุ้นเอสโซ่

ทั้งนี้ หากผู้ถือหุ้นทุกรายในเอสโซ่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในเอสโซ่ บริษัทจะได้มาเท่ากับ 3,460,858,000 หุ้น หรือคิดเป็น 100% และคิดเป็นเงินประมาณ 33,312 ล้านบาท ในกรณีที่คำนวณราคาซื้อขายโดยอ้างอิงจากงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิ.ย.65  หรือ 30,608 ล้านบาทในกรณีที่คำนวณราคาซื้อขายโดยอ้างอิงจากงบการเงิน ณ วันที่ 30 ก.ย.65 โดยคาดว่าธุรกรรมนี้จะเป็นผลสำเร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 66

ด้าน นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางพลังงานที่มากขึ้นของบางจากฯ และประเทศไทย เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืนและเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น ผมเชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมสู่บริบทใหม่สำหรับบางจากฯ และประเทศไทย

โดยการลงทุนครั้งนี้มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องคือโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง ก่อให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบริษัท โดยจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้งสอง และการให้บริการด้านการตลาดที่ครอบคลุมและนำเสนอบริการให้กับลูกค้าได้ยิ่งขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมัน ทั่วประเทศ

รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี ช่วยเพิ่มพูนทักษะและความสามารถของพนักงาน สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและก่อให้เกิดการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสู่ลูกค้า และเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มบริษัทบางจากในการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

โดยการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น

ทั้งนี้ หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ สำหรับแหล่งเงินทุนบางจากฯ จะใช้เงินทุนทั้งแหล่งภายนอกจากสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และจากกระแสเงินสดภายในบริษัท และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นจาก ExxonMobil เสร็จสิ้น อนึ่ง ExxonMobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกากับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจาปี 2566 โดยคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2566

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการที่ BCP เข้าไปถือหุ้นทั้งหมดใน ESSO จะส่งผลให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้งสอง

อนึ่ง ESSO มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องคือโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง ก่อให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบริษัท ขณะที่ BCP มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,300 แห่ง

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้น ESSO ของ BCP ว่า จะส่งผลบวกกับทั้ง 2 บริษัทในเรื่องของการซินเนอร์ยี่กัน เพราะจะส่งผลให้จำนวนสาขาปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่า OR ที่มีจำนวนปั๊มกว่า 1,900 สาขา รวมถึงได้ประโยชน์เนื่องสเตชั่นมอลล์ใหญ่ที่คล้าย OR และมีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BCP ได้แก่ 1) บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 2) สำนักงานประกันสังคม 3) กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี 4) กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย และ 5) กระทรวงการคลัง มีแนวโน้มที่จะอนุมัติการเข้าซื้อดังกล่าวเนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของ BCP

โดยการเข้าซื้อกิจการ ESSO ส่งผลให้ BCP มีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 250 KBD จากเดิม 125 KBD และทำให้มีความยืดหยุ่นในผลิตภัณฑ์มากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลให้สถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 2,140 สถานี จากเดิม 1,340 สถานี และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 25%(เดิม 15%) เป็นรองจาก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (12 ม.ค.66) ว่าจากที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ที่เห็นชอบในการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน ESSO จำนวน 2,283.75 ล้านหุ้น หรือ 65.99% ของหุ้น ESSO ทั้งหมดจากผู้ขายคือ ExxonMobil Asia Holding ด้วยมูลค่ากิจการ 5.55 หมื่นล้านบาท หักด้วยหนี้สินสุทธิและบวกรายการอื่นๆ โดยมีกลไกการปรับราคาซึ่งรายละเอียดกาหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น BCP ได้แสดงการคานวณเบื้องต้นว่า ราคาซื้อขายหุ้นจะอยู่ที่ 8.84 บาทต่อหุ้น (ณ 30 ก.ย. 65) ทั้งนี้ BCP มีหน้าที่ต้องทาคาเสนอซื้อหุ้นสามัญ ESSO ที่เหลือ 34.01% ในราคาเดียวกันด้วย

ทั้งนี้ทางนักวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อดีลนี้โดยประเด็นสำคัญคือราคาซื้อขายหุ้นที่ต่ำกว่ากระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่ 12-14 บาท และต่ำกว่าราคาตลาดที่ 11.1 บาท ทำให้ใช้เม็ดเงินที่ซื้อเพียง 2.0 หมื่นล้าน ซึ่งจะไม่กระทบต่อฐานะการเงินของ BCP ซึ่งปัจจุบันก็มี Net IBD/E ไม่สูง 0.65 เท่า อยู่แล้ว

นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มกาลังการกลั่นกว่า 140% โดย ESSO มีกำลังการกลั่น 174 พันบาร์เรลต่อวัน สูงกว่า BCP ที่ 123 พันบาร์เรลต่อวัน โดย BCP คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 2 เท่า และพัฒนาทางด้านการเติบโตของธุรกิจและการทำกำไร ทั้งนี้ด้วยราคาซื้อขายต่ำราคาตลาดของ ESSO ก็อาจจะทำให้ BCP ไม่ต้องใช้เงินทุนเพิ่มเติมเพื่อซื้อหุ้น ESSO ส่วนที่เหลือ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 39.50 บาท

Back to top button