THCOM ร่วง 2% โบรกแนะ “ขาย” ราคาขึ้นรับชนะประมูล “ดาวเทียม” แล้ว

THCOM ลบเกือบ 2% โบรกฯแนะนำ “ขาย” แต่ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 11.70 บาท ชี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรับชนะประมูล “ดาวเทียม” แล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ม.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ณ เวลา 10:05 น. อยู่ที่ระดับ 16 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 1.84% สูงสุดที่ระดับ 16.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 84.07 ล้านบาท

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ ยังคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น THCOM ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 11.70 บาท จากเดิม 9.40 บาทหลังจากที่ใส่มูลค่าของดาวเทียมใหม่จากการที่บริษัทประมูลได้ใบอนุญาตสองใบเมื่อวานนี้ โดยคาดว่า market cap เพิ่มขึ้นมาถึงเท่าตัวในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาสะท้อนมูลค่าของดาวเทียมใหม่และการขยายอายุการใช้งานดาวเทียมของ THCOM ไปเรียบร้อยแล้ว และมองว่าหลังจากนี้ราคาหุ้นน่าจะขยับตามศักยภาพของกำไรที่มีแนวโน้มจะลดลงในช่วงที่ดาวเทียมใหม่เริ่มใช้งานในปี 2568

ทั้งนี้ THCOM ชนะประมูลใบอนุญาตสองใบสำหรับใช้งานวงโคจร 78.5E และ 119.5E ในการประมูลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยราคาประมูลรวม 797 ล้านบาท (สูงกว่าราคาตั้งต้นประมาณ 5.3%) โดยคิดว่าไม่น่าแปลกใจที่ THCOM ชนะประมูลใบอนุญาตสองใบนี้ เพราะบริษัทใช้งาน TC-6 ในวงโคจร 78.5E และ TC-4 (หรือ iPSTAR) ในวงโคจร 119.5E อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้แปลกใจเล็กน้อยคือคิดว่า THCOM จะรอเข้าประมูลใบอนุญาตวงโคจร 78.5E ในการประมูลรอบหน้า เพราะดาวเทียม TC-6 ซึ่งใช้วงโคจร 78.5E ยังมีอายุการใช้งานอีก 6 ปีจนถึงปี 2572 ก่อนจะปลดระวาง (deorbit) สำหรับใบอนุญาตวงโคจร 119.5E นั้น THCOM ต้องประมูลให้ได้ในรอบนี้เพราะ iPSTAR มีอายุการใช้งานเหลืออีกเพียงสองปีจนถึงปี 2567 ก่อนที่จะปลดระวาง

ทั้งนี้ เนื่องจากราคาประมูลไม่ต่างจากสมมติฐานของเรา ดังนั้น จึงยังคงประเมินว่าการชนะประมูลใบอนุญาตวงโคจร 119.5E จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ THCOM ประมาณ 1.3 บาท/หุ้น ส่วนใบอนุญาตควงโคจร 78.5E น่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ THCOM 1 บาท/หุ้น

“จากราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมาแรงมาก เราคิดว่าควรต้องมาดูกันดี ๆ ว่าดาวเทียมแต่ละดวงจะสามารถสร้างรายได้และกำไรได้สูงกว่าสมมติฐานของเราได้แค่ไหน” ฝ่ายวิจัย ระบุ

ทั้งนี้ ใช้สมมติฐานว่ารายได้สูงสุดของดาวเทียมดวงใหม่ในวงโคจร 78.5E จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท และในวงโคจร 119.5E จะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท ดังนั้น จึงเริ่มต้นจากคำถามว่า “ดาวเทียมใหม่สองดวงนี้นี้จะสามารถสร้างรายได้เกินกว่าระดับรายได้สูงสุด และเพิ่มมูลค่าให้กับ THCOM เกินกว่าสมมติฐานของเราได้หรือไม่?” คำตอบคือเป็นไปได้ แต่มีโอกาสน้อยมาก

เนื่องจากวงโคจร 119.5E ดาวเทียมดวงใหม่ของ THCOM ต้องแข่งกับดาวเทียม Low Earth Orbit (LEO) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในอีกสิบปีนับจากนี้คาดว่าจะเห็นดาวเทียม LEO เพิ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง LEO ได้เปรียบดาวเทียมแบบดั้งเดิม (traditional) อย่าง iPSTAR ในแง่ของสัญญาณที่แรงกว่า เพราะตั้งอยู่ใกล้ผิวโลกมากกว่า

สำหรับวงโคจร 78.5E มองว่าอุปสงค์ของดาวเทียมดวงนี้มีแนวโน้มจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะ TV ดาวเทียมได้รับความนิยมลดลง โดยเฉพาะในประเทศไทย

บล.กรุงศรี ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 11.70 บาท จากเดิม 9.40 บาท หลังใส่มูลค่าของดาวเทียมใหม่ในวงโคจร 78.5E และ 119.5E เข้ามาในแบบจำลอง ยังคงคำแนะนำขาย THCOM เพราะราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาแล้วถึงเท่าตัวในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าสะท้อนมูลค่าของใบอนุญาตใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มผลประกอบการ ซึ่งเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจะแย่กว่าวันนี้เมื่อ iPSTAR เปิดดำเนินการในปี 2568

โดยราคาหุ้น THCOM เริ่มปรับขึ้นเมื่อปลายพ.ย.65 นับตั้งแต่วันที่ให้เอกชนรับซองประมูลใบอนุญาตการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม โดยราคาเมื่อวันที่ 29 พ.ย.65 ที่ 11.40 บาท ปรับตัวขึ้นมาสลับแรงขายทำกำไรเป็นระยะ ซึ่งระหว่างทางมีราคาสูงสุดแตะ 17.40 บาท (10 ม.ค.66) โดยวันที่ 13 ม.ค.66 ก่อนวันประมูลราคาเพิ่มขึ้น ราคาปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท (+4.49%) จากวันก่อนหน้า และนับจากวันที่ 29 พ.ย.65 ราคาหุ้น THCOM ปรับขึ้นไป 43%

Back to top button