PLAT มั่นใจกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุด เจรจา M&A กว่า 10 ราย
PLAT มั่นใจกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุด หลังเข้าช่วงไฮซีซั่น ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โตกว่า 10% เผยเจรจา M&A กว่า 10 ราย คาดเห็นความชัดเจนในปี 59 อย่างน้อย 1 ราย
นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT เปิดเผยว่าสำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 458.13 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนทั้งปีแล้ว
ขณะที่แนวโน้มรายได้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 4/58 น่าจะออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/58 เพราะมีการปรับค่าเช่าพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 58 ในแพลททินัม แฟชั่นมอลล์ ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่บริษัทประมาณ 70 % ของรายได้ทั้งหมดจาก 2,738 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนมาเป็น 2,914 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
นอกจากนี้ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีชาวต่าง ชาติ เข้าพักในโรงแรมย่าน ราชประสงค์ ประตูน้ำ เป็นจำนวนมาก รวมถึงการเข้าพักของโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ซึ่งประมาณการอัตราเข้าพักในช่วงไฮซีซั่นสูงกว่า 90% โดยภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะกลับมาคึกคัก รวมทั้งการใช้จ่าย เพิ่มมากขึ้นจะส่ง ผลดีต่อรายได้ของ บริษัทเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีและต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายปรับตัวขึ้นสูงมาก ส่วนหนึ่งอาจเพราะหลักทรัพย์ถูกนำเข้าไปคำนวณใน MSCI Global Small Cap โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.นี้ และเป็นหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะถูกนำเข้าไปคำนวณใน SET 100 เพราะมีคุณสมบัติที่ผ่านครบถ้วน ประกอบกับทีมงานก็ดำเนินธุรกิจด้วยความตั้งใจโดยตลอด
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 59 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยตั้งงบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนก่อสร้างโครงการเดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าในการลงเสาเข็มและจะเริ่มก่อสร้างในเดือนธ.ค. 58 นี้ หลังจากติดขัดปัญหาหลายอย่าง อาทิ ที่ดินและใบอนุญาต ซึ่งตามแผน 5 ปี (58-62) จะใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทในโครงการดังกล่าว และเตรียมงบลงทุนไว้อีกราว 2 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการลงทุนโครงการที่เกาะสมุย ซึ่งปัจจุบันมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 5,800 ล้านบาท และบริษัทฯยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนการใช้เครื่องมือทางการเงินอีกหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมสถาบันการเงิน การออกหุ้นกู้หรือการทำกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ฯ
โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรการเพื่อเข้าซื้อกิจการ กว่า 10 ราย โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 59 อย่างน้อย 1 ราย ซึ่งการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดมีหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น โครงการอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า และโรงแรม
“การซื้อกิจการอยู่ในแผนการยกระดับจากศูนย์การค้าประเภทค้าส่งมาเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งยังไม่ได้ตั้งกรอบการลงทุนเอาไว้ แต่ได้มีการพูดคุยอยู่ไม่น้อยกว่า 10 ราย ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่าและโครงการแนวราบ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างให้ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตก่อนศึกษาว่าจะออกเครื่องมือทางการเงินใดเข้ามาใช้เพื่อการลงทุน ซึ่งมีทั้งการกู้ยืมเพราะอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ค่อนข้างต่ำ ออกหุ้นกู้และทำกองทรัสต์” นายชาญชัย กล่าว
ทั้งนี้นอกจากลงทุนในโครงการเดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัมแล้ว บริษัทยังจะมีการลงทุนในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ตและโรงแรมโรงแรมฮอลิเดย์ รีสอร์ท ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 63 ซึ่งจะทำให้ภาพในอนาคตธุรกิจของบริษัทฯไม่เกิน 3 ปีจะยกระดับกลายเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ได้