TFG บวกแรง 5% รับโบรกฯประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้าสูง 10.73 บ. อัพไซด์กระฉูด 89%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ล่าสุด ณ เวลา 11:21 น. อยู่ที่ระดับ 5.65 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.63% สูงสุดที่ระดับ 5.65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.35 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69.06 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้น TFG มีราคาถูกที่สุดของกลุ่มผู้ประกอบการปศุสัตว์ไทย โดยประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานอยู่ที่ 10.73 บาทต่อหุ้น เนื่องจากราคาปศุสัตว์ไทยที่ยังคงยืนในระดับสูง บวกกับปริมาณขาย (วอลุ่ม) ที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต ธุรกิจร้านค้าปลีกที่ใกล้ถึงจุดคุ้มทุน และอัตราค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มลดลง คาดว่ากำไรในปี 2566 จะยังคงมีแนวโน้มขยายตัวจากปีก่อน ซึ่งมูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่าถูกมาก โดยอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (PER) อยู่เพียงแค่ 6 เท่า

โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดหมูในประเทศไทยจาก 10% ไปเป็น 15% ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งหลัก ๆ จะมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 60% ของทั้งธุรกิจหมูในประเทศไทยและเวียดนาม รวมทั้งบริษัทคาดว่าวอลุ่มส่งออกไก่ (รวมไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูป) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 27%

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TFG ให้ราคาเป้าหมายปี 2566 อยู่ที่ 8.50 บาท ด้วย Valuation ที่ถูก ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย (เทรด) บนอัตราราคาตลาดต่อกำไร (P/E) ปี 2566 เพียง 8.9 เท่า ประกอบกับแนวโน้มวัตถุดิบน่าจะทยอยอ่อนตัวลง รวมถึงค่าขนส่งที่ลดลงต่อเนื่องและบริษัทยังมีแผนขยายสาขา Retail Shop

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TFG ใหม่ราคาเป้าหมาย  8.50 บาทต่อหุ้น อิง P/E ปี 2566 ที่ 10 เท่า ต่ำสุดตั้งแต่จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์  ปัจจุบันหุ้นเทรดอยู่ที่ P/E ปี 2566 ที่ 6.5 เท่า คิดเป็นส่วนลด 67% และ 4% ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี ของบริษัท และค่าเฉลี่ย กลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน P/E ปี 2566 อยู่ที่ 10.4 เท่า ขณะที่อัตรากำไรที่สูงขึ้นจากการขยายกําลังการผลิต และการขยายสาขาเชิงรุกจะช่วยกระตุ้น Upside ต่อประมาณการปี 2566 ของเราได้มากขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำให้ซื้อหุ้น TFG โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 7.30 บาท เนื่องจากราคาหุ้นถูกและคาดว่ากำไรจะยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรในปี 2565 เพิ่มขึ้น 10% และปี 2566 อีก 11% เนื่องจากผลประกอบการออกมาดีเกินคาด และมีแผนขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น

ทั้งนี้ ประเมินว่าธุรกิจการส่งออกในปี 2566 ยังแข็งแกร่ง โดยคาดว่าราคาหมูในปี 2566 น่าจะได้อานิสงส์จากภาวะอุปทานขาดแคลนไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย และน่าจะยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ รวมทั้งบริษัทมีการแผนขยายการส่งออกไปยังตลาดที่มีศักยภาพ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น และในปี 2566 ยังมีแผนการขยายธุรกิจไก่แปรรูปอีก 20% และจะเริ่มจำหน่ายสินค้าโดยใช้แบรนด์ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่นอีกด้วย

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส  จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TFG ให้ราคาเป้าหมาย 7 บาท ประเมินว่าแนวโน้มธุรกิจไก่และหมูของ TFG จะยังดีต่อเนื่องในปี 2566 จากปัญหาการขาดแคลน หนุนแนวโน้มราคาหมูและไก่จะยืนสูงต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการขยายกำลังการเลี้ยงหมูในไทยและเวียดนามที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะการเน้นขายไก่ไปสู่ช่องทางที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการส่งออกไก่สู่ต่างประเทศ สนับสนุนให้รายได้รวมและประสิทธิภาพการทำกำไร จะยังดีต่อเนื่องในปี 2566