WHA บวก 2% ลุ้นรายได้ 5 ปีทะลุแสนล้าน จ่อรับอานิสงส์ผลิต “แบตเตอรี่”
WHA บวก 2% ตั้งเป้า 5 รายรวมทะลุ 1 แสนล้านบาท พร้อมวางงบลงทุน 6.8 หมื่นล้านบาท เน้นธุรกิจโลจิสติกส์-ที่ดิน-ไฟฟ้าเต็มสูบ แย้มปิดดีลลูกค้า EV ยักษ์ใหญ่ในจีน 1 รายต้นไตรมาส 2/66 ด้านโบรกชี้คาดได้รับอานิสงส์มาตรการสนับสนุนการลงทุนแบตอีวีของกรมสรรพสามิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ก.พ.66) ราคาหุ้น บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ล่าสุด ณ เวลา 10:04 น. อยู่ที่ระดับ 3.96 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 2.06% สูงสุดที่ระดับ 3.96 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.94 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100.99 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากข่าว นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ WHA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติในระยะ 5 ปี (ปี 2566-2570) อยู่ที่ระดับ 100,000 ล้านบาท และวางงบลงทุนไว้ที่ 68,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ 17,000 ล้านบาท กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม 29,000 ล้านบาท กลุ่มสาธารณูปโภคและพลังงาน 18,500 ล้านบาท และกลุ่มดิจิทัล 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ไม่ต่ำกว่า 40% และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD) ต่ำกว่า 1.2 เท่า รวมถึงมุ่งเป้าสร้างฐานรายได้ประจำ (RECURRING INCOME) ให้ได้เฉลี่ย 50% และรายได้ปกติ (NONRECURRING INCOME) เฉลี่ย 50%
โดยในปี 2566 บริษัทได้วางกลยุทธ์ไว้ 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.รักษาความเป็นหนึ่งในประเทศไทยด้วยการครองอันดับหนึ่งทุกธุรกิจขององค์กร 2.เร่งการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เน้นที่ประเทศเวียดนาม 3.ใช้นวัตกรรมดิจิทัล และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า 4.สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ และ 5.นำเทคโนโลยีมาประยุกต์พัฒนาองค์กรมี่เปี่ยมประสิทธิภาพ และมุ่งสู่การเป็น Technology Company ภายในปี 2567 และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปีที่ผ่านมามีการทรานส์ฟอร์มองค์กรไปกว่า 32 โครงการ
นางสาวจรีพร กล่าวต่อว่า ในส่วนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายมียอดขายที่ดิน 1,750 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 1,200 ไร่ และเวียดนาม 550 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มียอดขาย 1,740 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 1,634 ไร่ และเวียดนาม 106 ไร่ ทั้งนี้บริษัทอาจจะมีการปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย โดยรายแรกเป็นกลุ่มซัพพลายเชนของค่ายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) คาดว่าการเจรจาเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.-เม.ย. 2566 พื้นที่กว่า 200-300 ไร่ และรายที่สองเป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ พื้นที่ขนาดเทียบเท่าที่เคยขายให้กับ บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BYD ประมาณเกือบ 600 ไร่ คาดว่าการเจรจาเสร็จสิ้นภายในกลางปี 2566
นอกจากนี้ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น WHA เนื่องจากมองว่ามาตรการสนับสนุนการลงทุนแบตอีวี ของกรมสรรพสามิตที่มีการลดภาษีลดภาษีลงเหลือ 1% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 8% รวมถึงการจ่ายเงินอุดหนุนผู้ผลิตแบตเตอรี่ 2.4 หมื่นล้านบาท จะทำให้ราคาแบตเตอรี่และรถอีวีลดลงได้ เป็นการสนับสนุน Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ประเมินผลเชิงบวกจากประเด็นข่าวการสนับสนุนการลงทุนธุรกิจรถอีวีในประเทศ ซ่างคาดจะกระตุ้นการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการ คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 เติบโต 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการลงทุนภาคเอกชนที่คาดจะฟื้นตัว โดยในปี 2566 จะสามารถหนุนยอดโอน รวมถึงยอดขายที่ดินนิคมฯ โดยมีราคาเป้าหมายพื้นฐาน 4.4 บาท