ASW วิ่งต่อ 4% ลุ้นกำไรปีนี้ทะลุ 1 พันล้าน-ยีลด์สูง 6% โบรกเคาะเป้า 10 บ.
ASW บวกต่อ 4% โบรกมองเปิดโครงการใหม่จะช่วยให้ผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด คาดกำไรปีนี้ทะลุ 1 พันล้าน ส่วนยีลด์สูง 64% ขณะที่ค่า P/E ระดับ 7.6 เท่า ดังนั้นให้ราคาเป้าหมาย 10 บาท สำหรับปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนแบ็กล็อกมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.พ. 66) ราคาหุ้น บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ล่าสุด ณ เวลา 10:16 น. อยู่ที่ระดับ 8.70 บาท บวก 0.35 บาท เพิ่มขึ้น 4.19% สูงสุดที่ระดับ 8.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.55 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50.67 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น ASW ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรับปัจจัยบวกจากทิศทางของธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง ตามการประเมินของ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทในปี 2566 เป็นการเติบโตก้าวกระโดดจากปี 2565 โดยกำไรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 689 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปี อ้างอิงกำไรเฉลี่ยจาก Bloomberg Consensus ของ NPM ที่ 18% เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่ม PROP ที่ 15% ปลายงวด 9 เดือนแรกปี 65
มี backlog จำนวน 12,935 ล้านบาท โดยคาดว่ามีการโอนในไตรมาส 4/65 ราว 3,695 ล้านบาท โอนในปี 66 ราว 9,240 ล้านบาท และ Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 66 เฉลี่ย 1,119 ล้านบาท เติบโตราว 31% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขายที่ P/E ระดับ 7.6 เท่า และ IAA Consensus คาด Yield เฉลี่ย 6.4% โดยราคาเป้าหมายConsensus 10.00 บาท
ขณะเดียวกัน นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินธุรกิจ จำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2.25 หมื่นล้านบาท โดยวางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนทำได้ 1.4 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ในปีนี้ที่ 7.2 พันล้านบาท
โดยโครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้เป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียมฯ 70% และแนวราบ 30% แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคฟ (Kave), แบรนด์แอทโมซ (Atmoz) และแบรนด์โมดิซ (Modiz) จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 1.58 หมื่นล้านบาท และโครงการบ้าน 3 โครงการ มูลค่ารวม 6.67 พันล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (The Honor) และ แบรนด์น้องใหม่ ดิ อาร์เบอร์ (The Arbor) เพื่อเปิดประสบการณ์ที่อยู่อาศัยดีไซน์ใหม่ เตรียมขยายกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์มากยิ่งขึ้น
ด้านการโอนโครงการของบริษัทในปีนี้มีโครงการใหม่ที่จะทยอยโอน 9 โครงการ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้าเข้ามาเกือบเท่ากับเป้ารับรู้รายได้ของบริษัท และบริษัทยังตั้งเป้ารายได้ในปี 68 แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากการเดินหน้าขยายโครงการต่อเนื่อง
ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งจะรองรับการพัฒนาโครงการในปีต่อๆไป โดยเน้นที่ดินในเมืองเป็นหลัก เนื่องจากหลังที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และจีนเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองมีมากขึ้น ซึ่งบริษัทจะมีการพัฒนาโครงการตามเทรนด์ของความต้องการในการซื้อที่อยู่อาศัย
นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 66 เชื่อว่าดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ทั้งจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และนโยบายการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ ซึ่งส่งผลดีต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ รวมถึงเทรนด์การอยู่อาศัยที่มีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้สอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน ทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยจากปัจจัยบวกเหล่านี้แอสเซทไวส์ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการคว้าโอกาสขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการใช้จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนต่อการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน