“3 หุ้นตระกูลป.” จับมือวิ่งคึก รับน้ำมันดิบ WTI-BRENT ปิดพุ่ง 3%

PTTEP-PTT-PTTGC บวกคึก ขานรับน้ำมันดิบ WTI-BRENT ปิดพุ่ง 3% อานิสงส์ “ดอลลาร์” อ่อนค่า รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมันในจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ก.พ.66) ณ เวลา 10:19 น. ราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP อยู่ที่ระดับ 166.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 0.91% สูงสุดที่ระดับ 167.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 166.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 509.31 ล้านบาท

ด้าน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อยู่ที่ระดับ 33 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.54% สูงสุดที่ระดับ 33.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 395.57 ล้านบาท

ขณะที่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC อยู่ที่ระดับ 50.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.51% สูงสุดที่ระดับ 50.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 49.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136.30 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% ในวันอังคาร (7 ก.พ.) หลังจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมันในจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัว

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 3.03 ดอลลาร์ 4.1% ปิดที่ 77.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 83.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

ด้านนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) เมื่อคืนนี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง (Disinflationary) ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะนำไปสู่การชะลอตัวของเงินเฟ้อนั้น เริ่มปรากฎให้เห็นแล้ว โดยเฉพาะในภาคสินค้า (Goods Sector) นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า ปี 2566 จะเป็นปีที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนม.ค.ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.19% แตะที่ 103.4120 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

ตลาดน้ำมันได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว หลังจากตุรกีสั่งปิดท่าเรือเจย์ฮัน ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยท่าเรือเจย์ฮันเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่ส่งออกน้ำมันดิบมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนม.ค. หรือคิดเป็น 1% ของปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก และส่วนใหญ่มีการส่งไปยังโรงกลั่นน้ำมันในยุโรป

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดและเปิดประเทศ โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่าการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะมาจากจีน

Back to top button