SAK บวก 4% วางเป้าสินเชื่อปีนี้โต 25% แตะ 1.35 หมื่นล้าน คุม NPL ไม่เกิน 2.5%
SAK บวก 4% วางเป้าสินเชื่อปีนี้โต 25% แตะ 1.35 หมื่นล้าน คุม NPL ไม่เกิน 2.5% พร้อมจับมือพันธมิตรรุกปล่อยกู้โซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย ตั้งเป้าหมายยอดขายภายในปีนี้มากกว่า 5,000 ครัวเรือน หนุนพอร์ตสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปที่ 1,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.พ.66) ราคาหุ้นบริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ณ เวลา 16:03 น. อยู่ที่ระดับ 7.35 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.26% ราคาสูงสุด 7.35 บาท ราคาต่ำสุด 6.85 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 53.16 ล้านบาท ราคาหุ้นแรงในรอบ 4 เดือน โดยเทียบราคาหุ้นยืนที่ระดับ 7.40 บาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.65
โดยก่อนหน้านี้นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ SAK เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้เติบโต 25% จากปีก่อน อยู่ที่ 13,500 ล้านบาท ไม่รวมสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป โดยสัดส่วนพอร์ตกว่า 80% มาจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ตามด้วยสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพที่ 12.1% สินเชื่อส่วนบุคคลที่ 2.7% และสินเชื่อเช่าซื้อ 5.1% ขณะเดียวกันมีเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ไว้ที่ 2,000-2,500 ล้านบาท พร้อมให้ความสำคัญกับการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2.5%
ส่วนของสินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตร ปีนี้บริษัทวางเป้าหมายยอดขายกว่า 300 ชุด จากปี 2565 ที่ 50 ชุด โดยจะให้บริการสินเชื่อฉีดพ่นปุ๋ยและพ่นยาเพื่อการเกษตรควบคู่กันไปด้วย สำหรับสินเชื่อที่ดิน จะมีการทำการตลาดปีนี้เพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่าการเติบโตอาจไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับบริการสินเชื่อประเภทอื่น ๆ
ล่าสุด บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมทุนกับ บริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟท็อปชั้นนำของไทย จัดตั้งบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท บริษัทถือหุ้น 35% บริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 65% คาดว่าจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใน ม.ค. 66 ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญการขยายการให้บริการสินเชื่อเพื่อการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ บริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จะดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย โดย SAK จะเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมการตลาดและให้บริการสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปให้แก่ประชาชนที่สนใจผ่านสาขาที่มีมากกว่า 1,029 สาขา ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มให้บริการภายในไตรมาส 1/66 ตั้งเป้าหมายยอดขายภายในปีนี้มากกว่า 5,000 ครัวเรือน หนุนพอร์ตสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปที่ 1,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปมีการเติบโตสูง คาดว่าตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยปีละ 22% หรือแตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568 การผนึกกำลังครั้งนี้ ได้วางเป้าหมายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัยภายใน 3 ปีข้างหน้า ไม่น้อยกว่า 100,000 ครัวเรือน และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 500 เมกะวัตต์