FPI จับมือพันธมิตรชิงโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36MW มั่นใจพร้อมทุกด้าน
FPI จับมือพันธมิตรชิงโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ที่รัฐฯ จะเปิดรับซื้อ 36MW มั่นใจพร้อมทุกด้าน เผยบอร์ดอนุมัติเข้าลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใน 5 บริษัทใหม่
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจศักยภาพมีความพร้อมทั้งด้านแหล่งเงินและวัตถุดิบที่จะเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลจะเปิดรับซื้อรวม 36 เมกะวัตต์ (MW) โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมประมูลงานดังกล่าว
ขณะที่คณะกรรมการของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล (Biomass Power Plant) โดยการเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแห่งใหม่รวม 5 บริษัท เพื่อเตรียมเข้าร่วมประมูลรับคัดเลือกและอนุญาตเป็นผู้เสนอขายไฟฟ้า เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามแต่กรณีไป คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นเท่ากับ 8.96 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
อนึ่งก่อนหน้านี้ FPI ได้ร่วมกับบริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วย บริษัท วิชญ์ อุตสาหกรรม จำกัด (WIT) และกลุ่มผู้ประกอบการโรงไม้ หรือโรงเลื่อยไม้ ในเขตพื้นที่ตั้งของโครงการโรงไฟฟ้าในแต่ละแห่ง ตั้งเป้าประมูลใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 120 เมกะวัตต์ ขายให้กับกฟผ. และกฟภ.
ทั้งนี้คาดว่าหาก FPI และพันธมิตร ชนะการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล คาดว่าอัตราแผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) จะอยู่ที่ 15-30% คาดประมาณ 3 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 7 ปี ก็จะสามารถคืนทุนได้ทั้งหมด โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 15-18 เดือน โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2560
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีนโยบายการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท คือ ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, บริการรับออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตแม่พิมพ์พลาสติก, รับจ้างฉีดชุบโครเมียม, พ่นสี, ประกอบ ชิ้นงานทุกประเภท โดยในอนาคต บริษัทมีแผนจะขยายการดำเนินธุรกิจไปในด้านพลังงานทดแทน ได้แก่ ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล (Biomass Power Plant) ซึ่งเป็นผลให้บริษัทเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแห่งใหม่รวม 5 บริษัทดังกล่าว