PLUS ดีด 4% ลุ้นรายได้ปี 66 โต 30% ลุยออกสินค้าใหม่-เพิ่มช่องทางขาย โบรกชูเป้า 10.20 บ.
PLUS ดีด 4% ลุ้นรายได้ปี 66 เติบโต 30% เดินหน้าออกสินค้าใหม่และเพิ่มช่องทางการขายทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.20 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ. 66) ราคาหุ้น บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS ล่าสุด ณ เวลา 10:43 น. อยู่ที่ระดับ 8.75 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 4.17% สูงสุดที่ระดับ 8.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.15 ล้านบาท
สำหรับราคาที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่าทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการขายเติบโตที่ระดับ 30% จากปี 2565 ซึ่งถือเป็นรายได้ที่เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ต่อเนื่องจากปี 2565 จากการขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งจากลูกค้าเดิมๆ และลูกค้าใหม่ๆ ที่เข้ามาเพิ่ม มีการออกสินค้าใหม่ๆ ในปี 2566 รวมทั้งมีการปรับบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ใหม่ ๆ เพื่อรองรับการขยายตลาดใหม่ๆ ด้วย
“เราเชื่อว่าในปี 2566 ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มประเภทน้ำมะพร้าวยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตหลักๆ จะมาจากตลาดเครื่องดื่มประเภทน้ำมะพร้าวของโลกยังมีอัตราการเติบโตในหลัก 10% ประกอบกับกลุ่มลูกค้ามีการขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย” นายพลแสง กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีการเจรจาร่วมกับตัวแทนกระจายสินค้า (Distributor) เดิม เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ ๆ คาดว่าภายในปี 2566 จะเห็นความชัดเจนในการขยายผ่านช่องทางการจำหน่ายในห้าง “วอลมาร์ท” เพิ่มเป็น 4,000 สาขา จากปัจจุบันที่มีการจำหน่ายในห้าง “วอลมาร์ท” แล้วจำนวน 2,000 สาขา ซึ่งจะส่งผลบวกต่อยอดขายของ PLUS ด้วย
สำหรับในปี 2566 บริษัทจะมีการขยายตลาดตามแผนต่อเนื่อง ทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทั้งการเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ ผ่าน Distributor รายเดิม และการหา Distributor รายใหม่ๆ รวมถึงการปรับ Packaging เพื่อรองรับการขยายช่องทางการขายใหม่ ๆ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับการขยายตลาดด้วย อีกทั้งยังมีตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งมีการขยายตลาด และหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้มากขึ้น
ขณะที่โครงการลงทุนสายการผลิตขวดพลาสติก (PET) อยู่ระหว่างรอเครื่องจักรเข้ามา คาดว่าภายในช่วงปลายไตรมาส 2/2566 จะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งเครื่องจักรดังกล่าวจะเป็นเครื่องจักรที่ทันสมัยสามารถรองรับการผลิต ทั้งสินค้าเดิม และสินค้าใหม่ ๆ ของ PLUS ได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเครื่องจักรใหม่ทำให้ต้นทุนการผลิตของ PLUS ลดลง ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จากการขายทั้งปี 2565 จะเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะทำนิวไฮ หรือเติบโต 50% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวมแล้ว 1,216 ล้านบาท ทำนิวไฮแล้ว โดยเป็นไปตามออเดอร์ที่ฟื้นตัวตามการบริโภค โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติผลการดำเนินงานในปี 2565 และแจ้งงบการเงินในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นี้
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ขณะนี้แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLUS กำหนดราคาเหมาะสมที่ 10.20 บาทต่อหุ้น โดยคาดกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.8% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท โดยไตรมาส 4/2565 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการเติบโตได้จากตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก เนื่องจากสินค้าที่ติดตลาดยังเติบโตได้ต่อเนื่อง และการขยายช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ, ตะวันออกกลาง และเอเชีย ประกอบกับการรับรู้รายได้จากกลุ่มสินค้าใหม่ภายใต้ Own-Branded เช่น โยเกิร์ต Plant-Based ที่เจาะตลาดกลุ่มสหรัฐฯ และชานม Mabu ที่เจาะตลาดในประเทศ และ CLMV ได้เต็มไตรมาส ขณะที่ค่าขนส่งทางเรือที่คลี่คลายมากขึ้นช่วยหนุนกำลังซื้อของลูกค้า
นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2566 จะเติบโตสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 257 ล้านบาท โดยประเมินแนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/2566 จะกลับมาโดดเด่นมากขึ้น เติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้อานิสงส์จากการที่จีนเปิดประเทศในต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ PLUS โดยมีสัดส่วนรายได้ราว 20% ของรายได้รวม ซึ่งในปี 2565 ถูกผลกระทบจากการ Lockdown ทำให้การเติบโตไม่สามารถทำได้ในระดับที่ควรจะเป็น
ดังนั้น การกลับมาเปิดประเทศจะส่งผลบวกโดยตรงต่อแนวโน้มการส่งออกสินค้าไปจีนในไตรมาส 1/2566 และสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดปี 2566 นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้เครื่องจักรไลน์บรรจุขวด PET ใหม่ เป็นไตรมาสแรก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 1/2566 ของ PLUS จะอยู่ในกรอบ 50–60 ล้านบาท เติบโตขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อน และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน