RS เผย “ช่อง 8” เตรียมทุ่มงบ 200 ลบ. ใช้ประชาสัมพันธ์ช่องเต็มรูปแบบ
RS เผย "ช่อง 8" เตรียมทุ่มงบ 200 ลบ. ใช้ประชาสัมพันธ์ช่องเต็มรูปแบบ สำหรับแผนลงทุนในปี 59 วางงบประมาณ 1 พันลบ. เพื่อผลิตละครไม่ต่ำกว่า 30 เรื่อง รองรับการออกอากาศที่เพิ่มครบทั้ง 7 วัน
นายองอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ช่อง 8 ได้เตรียมใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์สื่อเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างการรับรู้ช่อง 8″ออกอากาศหมายเลข 27 ให้เร็วที่สุด ซึ่งในเฟสแรกจะติดตั้งป้ายโฆษณากลางแจ้งทุกจุดสำคัญทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่และเส้นทางเดินรถระหว่างเมืองจำนวนกว่า 400 แห่ง เริ่มได้เห็นตั้งแต่ 1 ม.ค.59 เป็นต้นไป
โดยการดำเนินการดังกล่าวเพื่อรองรับกับร่างประกาศที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่กำหนดให้เรียงช่องทีวีดิจิตอล ประเภทบริการสาธารณะและธุรกิจ ที่หมายเลข 1-36 เหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม ทั้งช่องทางการรับชมทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน, เคเบิลและทีวีดาวเทียม ซึ่งนับเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล โดยเฉพาะกับผู้ชมทีวีที่จะช่วยให้ผู้ชมไม่สับสนกับหมายเลขช่องที่จัดเรียงอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ หลังจากประกาศมีผลบังคับใช้มองว่าทั้ง กสทช. และผู้ประกอบการทีวีจะต้องร่วมกันประชาสัมพันธ์การจัดเรียงช่องใหม่ให้ประชาชนรับรู้ เชื่อว่าหลังจากทุกแพลตฟอร์มจัดเรียงช่องทีวีดิจิทัลเหมือนกันที่ลำดับ 1-36 จะทำให้จดจำช่องได้ง่าย และมีผู้ชมทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น
สำหรับการประชาสัมพันธ์ในระยะถัดไปจะเริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.59 เพื่อขยายวงกว้างไปสู่สื่อโฆษณารูปแบบต่างๆ ได้แก่ สื่อบิลบอร์ดทางด่วน จอแอลอีดี สื่อณ.สถานีการคมนาคมต่างๆ เช่น สื่อรถเมล์ จอที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทีวีสถานีรถขนส่งหมอชิต จอแอลอีดีที่สถานีรถไฟหัวลำโพง รวมถึงจอทีวีในห้องน้ำ และศูนย์อาหารต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า สำหรับการเปลี่ยนหมายการรับชมช่อง 8 โดยการใช้เลข 27 เลขเดียวนั้น มั่นใจว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเรตติ้งอย่างแน่นอน เนื่องจากพฤติกรรมคนดูเลือกรับชมที่คอนเทนต์ใช่และชอบเป็นหลัก
โดยบริษัทได้ขยายฝ่ายผลิตละครเต็มรูปแบบ เพื่อสอดรับกับแผนลงทุนในปี 59 ที่วางงบประมาณ 1 พันล้านบาท สำหรับผลิตละครไม่ต่ำกว่า 30 เรื่อง รองรับการออกอากาศที่เพิ่มครบทั้ง 7 วัน ทำให้ต่อไปนี้ “ช่อง 8” จะมีทีมผลิตละครเองที่แข็งแกร่ง
รวมทั้งมีความหลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยเปิดโอกาสให้ผู้จัดละครนอกบริษัทเข้ามาร่วมงาน แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ แบบที่ 1 เป็นลักษณะที่ฝ่ายละครของช่อง 8 ผลิตละครเอง และแบบที่ 2 เป็นลักษณะการเซ็นสัญญารับจ้างผลิตละครให้เฉพาะช่อง 8 อาทิเช่น บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด, บริษัท เกียรติระพี จำกัด เป็นต้น ทำให้เห็นสัดส่วนผลิตละครเองอยู่ที่ 40% และว่าจ้างผู้จัดนอกบริษัทผลิตอยู่ที่ 60% โดยตลอดปีหน้าจะได้เห็นละครฟอร์มยักษ์อย่างน้อย 1 เรื่องทุกไตรมาส ได้แก่ ล่าดับตะวัน เชลยศึก ระบำไฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์บริหารจัดการละครที่ผลิตออกมาทุกเรื่องในรูปแบบครบวงจร 360 องศา เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นครอบคลุมทุกมิติมากที่สุด ถือเป็นการปิดประตูขาดทุนนับตั้งแต่วันแรกที่อนุมัติผลิต ดังนี้ มิติแรกเป็นการขายค่าโฆษณาจากการออกอากาศบนช่อง 8 ที่กำลังจะปรับขึ้นเป็น 50,000-320,000 บาทต่อนาที จากทุกวันนี้มีอัตราค่าโฆษณาเริ่มต้น 5 หมื่นบาทต่อนาที และสูงสุด 2 แสนบาทต่อนาที
ขณะเดียวกันยังมีการขายค่าโฆษณาจากการออกอากาศบนช่องทางยูทูบในชื่อช่อง8 ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้คิดตามแล้ว 500,000 ราย ถือเป็นอีกช่องทางที่มีแนวโน้มเติบโตดี เพราะสอดรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อายุ 15-45 ปี นิยมรับชมละครย้อนหลังในช่วงเวลาที่สะดวก และมิติที่สามเป็นการขายลิขสิทธิ์ละครที่ออกอากาศในประเทศไทยแล้วให้กับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านแถบอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา, ลาว, เวียดนาม, เมียนมาร์, บรูไน ฯลฯ ซึ่งปีนี้มีผลการดำเนินงานที่ดีไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท เนื่องจากภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน และคาดว่าปีหน้าจะดียิ่งขึ้นเพราะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เต็มตัว รวมถึงประเทศจีนก็เป็นอีกตลาดที่มาแรงมีนายทุนสนใจซื้อหลายรายด้วย