“นายก” เป็นปลื้มไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่ก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชีย

นายกรัฐมนตรี มีความยินดีที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ 10 ว่าเป็นประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย จากการจัดอันดับของ Yahoo Finance โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถในการลงทุน เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ


วันที่ 20 ก.พ. 2566  นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ไทยได้อันดับ 10 ประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย (Most Advanced Countries in Asia) จากการจัดอันดับ ของ Yahoo Finance  ทั้งนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีภาคบริการที่โดดเด่นเติบโตสูง คิดเป็นร้อยละ 58.3 ของ GDP ของประเทศในปี 2563 ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.31 จากปีก่อนหน้า สร้างรายได้รวมกว่า 1.37 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้มีการระบุด้วยว่า คะแนนการพัฒนามนุษย์ในช่วงปี 2564-2565 นั้นสูงมากที่ 0.800 คะแนน และประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการลงทุนอย่างมากในด้านการวิจัยและพัฒนา R&D ในปี 2563 โดยมีการใช้จ่ายคิดเป็นร้อยละ 1.14 ของ GDP เมื่อพิจารณาคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ Human Development Index ที่ใช้ในการวัดผลพบว่า คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 78.7 ปี ระยะเวลาการศึกษา 15.9 ปี และมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 619,000 ต่อปี

สำหรับการจัดอันดับประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียของ Yahoo Finance พิจารณาจาก (1) ดัชนีการพัฒนามนุษย์ จาก Human Development Index หรือ HDI ของปี 2021-2022 ซึ่ง HDI มีการวัดจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคืออายุคาดเฉลี่ย ระดับการศึกษา และรายได้ต่อหัว (GDP Per capita) (2) สัดส่วนของงบประมาณในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ต่อ GDP ที่เป็นข้อมูลจากธนาคารโลก และการประเมินยังคำนึงถึง (3) การมีบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศนั้นๆ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับและให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนของประเทศ ทั้งภาครัฐ การศึกษา เอกชน และประชาชน ได้ร่วมกันดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลยกระดับความสามารถทั้งขององค์กร และบุคลากร เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนนี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเร่งส่งเสริมให้เกิดความเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการลงทุน เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อการใช้ประโยชน์ ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิจัยและพัฒนาจากต่างประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อย่างสมดุล

Back to top button