NCH มั่นใจกำไรปีนี้สูงสุดในรอบ 10 ปี เร่งหาพันธมิตรร่วมลงทุน
NCH มั่นใจกำไรปีนี้สูงสุดในรอบ 10 ปี หลัง 9 เดือนแรกทำยอดขายได้ตามเป้า เตรียมเปิดอย่างน้อย 3 โครงการใหม่ในปี 59 อยู่ระหว่างหาพันธมิตรร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้กำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 10 ปี หลังจาก 9 เดือนแรกมีกำไรแล้ว 96 ล้านบาท เติบโตถึง 124% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 2,670 ล้านบาททั้งแนวราบและแนวสูง แม้จะมีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ออกไป 1 โครงการ มูลค่า 800 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ราว 33-34% และอัตรากำไรสุทธิ 7%
“ปีนี้ยอดขายไม่โตเมื่อเทียบกับปี 57 แต่ก็เป็นไปตามเป้าที่ 2,670 ล้านบาท โดย 9 เดือน มียอดขายแล้ว 1,758 ล้านบาท พอเดือน ต.ค.-พ.ย.ยอดขายก็ใช้ได้ ครบ 11 เดือนน่าจะแตะ 2,000 ล้านบาท ถือว่าไล่เป้า ก็เชื่อทั้งปีได้ตามเป้า เพราะ ธ.ค.เราก็มีแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าด้วย”นายสมนึก กล่าว
สำหรับรายได้รวมในปีนี้บริษัทตั้งเป้า 2,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30% ปัจจุบันมียอดขายรอโอน(backlog)เกือบ 800 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดโอนในไตรมาส 4/58 ราว 50% หรือ 400 ล้านบาท ที่เหลือทยอยโอนในปีหน้า โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้แล้ว 1,590 ล้านบาท จึงเชื่อว่าทั้งปีก็น่าจะได้ตามเป้า ปัจจุบันมีสต็อก (สินค้ารอขาย) 3,600 ล้านบาท เป็นแนวราบ 3,000 ล้านบาท แนวสูง 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทได้เลื่อนเปิดโครงการใหม่ไปปีหน้า 1 โครงการ เป็นบ้านในสนามกอล์ฟ ราคา 6 ล้านบาท เนื่องจากในย่านนั้นยังมีสินค้าที่เป็นสต็อกอยู่ จึงอยากจะดูจังหวะเปิดตัวแล้วมี momentum ที่ดีมากกว่านี้ ซึ่งตามแผนจะเปิดปลายปีนี้ แต่ไตรมาส 3 สถานการณ์ในประเทศและต่างประเทศร้อนแรง”
โดยปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินเปล่าอยู่ในมือกว่า 800 ไร่ในย่านปทุมธานีแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย ซึ่งบริษัทจะทยอยนำมาพัฒนาในช่วงนี้ เมื่อโครงการรถไฟฟ้าชัดเจนขึ้น มูลค่าที่ดินก็จะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้เน้นทำการตลาดในย่านนี้ไว้แล้วทำให้มีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)สูง โดยบ้านมีตั้งแต่ระดับราคา 2-20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปีหน้ายังไม่ได้ตั้งงบซื้อที่ดินเพิ่ม แต่ก็มองโซนนี้ยังเป็นไปได้เพียงแต่รอจังหวะที่ดี เนื่องจากยังมีแลนด์แบงก์อยู่ค่อนข้างมาก
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 59 อยู่ระหว่างจัดทำ แต่เบื้องต้นน่าจะเปิดไม่ต่ำกว่า 3 โครงการ รวมโครงการที่เลื่อนออกไปจากปีนี้ด้วย ซึ่งบริษัทมองว่าสถานการณ์ในนปีหน้าเป็นไปในเชิงบวก หลังจากปีนี้เศรษฐกิจเติบโตในระดับต่ำ 2.8-2.9% แต่ปี 59 น่าจะเติบโตมากขึ้น เนื่องจากมาตรการภาครัฐจะมีผลชัดเจนขึ้น การตอบรับผู้บริโภคดีขึ้น ดังนั้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวโน้มก็น่าจะดี และบริษัทก็จะเติบโตได้มากกว่าปีนี้
ส่วนความคืบหน้าการหาพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา 3-4 ราย เป็นผู้ประกอบการต่างประเทศทั้งหมด เพื่อมาเสริมทั้งด้านการลงทุน การตลาด และเทคโนโลยี อาจเป็นลักษณะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เมื่อโครงการชัดเจนก็ร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม การเจรจาก็มีหลายรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
ขณะที่การปรับราคาขายบ้านดู sentiment ตลาดเป็นหลักเพราะราคาที่ดินปรับขึ้นทุกปี เราก็จะปรับตามการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าตลาดจะปรับขึ้นราว 5% อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันจึงยังไม่กดดันมาก