ดอลล์อ่อนค่า ตลาดวิตกภาคการผลิตสหรัฐฯหดตัว

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่สกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากผลสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนมีการขยายตัวได้ดีในเดือนพ.ย.


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 122.87 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 123.09 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0278 ฟรังค์ จากระดับ 1.0290 ฟรังค์

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.0630 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0567 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5079 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5060 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ จากระดับ 0.7329 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7235 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลงในเดือนพ.ย.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2012 ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของ ISM ร่วงลงสู่ระดับ 48.6 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 50.1 ในเดือนต.ค. โดยการร่วงลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.5 ในเดือนพ.ย.

ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากผลสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 52.8 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 52.3 เมื่อเดือนต.ค.ทั้งนี้ ภาคการผลิตฟื้นตัวในวงกว้าง โดยสมาชิกยูโรโซนทุกประเทศล้วนมีการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ยกเว้นกรีซ

นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยหากตัวเลขออกมาแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า ECB จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน หรืออาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมครั้งนี้

Back to top button