ครม.ไฟเขียว ‘บัตรคนจน’ รอบใหม่ 14 ล้านคนได้เฮรับสิทธิ์ เตรียมใช้สวัสดิการ 1 เม.ย. 66 นี้
หลังจากที่รอคอยกันมานานกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอ …
หลังจากที่รอคอยกันมานานกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ จนล่าสุดนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบคุณสมบัติผู้ที่ได้ลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 แล้วเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากที่เปิดให้ลงคนลงทะเบียนมาทั้งสิ้นจำนวน 19.6 ล้านราย มีผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทั้งสิ้น 14.6 ล้านราย ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ 5.5 ล้านราย
สำหรับประชารัฐสวัสดิการใหม่นี้ จะเริ่มกระบวนยืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องเริ่มกระบวนการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป และผูกบัญชีพร้อมเพย์ พร้อมกับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อที่จะรับสิทธิ์สวัสดิการ และเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566
หากไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ก็ยังจะสามารถดำเนินการยืนยันตัวตนต่อไปได้ แต่จะไม่มีสามารถเริ่มใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ทันภายในวันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งระยะเวลาการใช้สิทธิ์จะขึ้นอยู่ตามเกณฑ์ของช่วงเวลาที่กำหนด
และสำหรับผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ สามารถเริ่มกระบวนการอุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 หลังจากนั้นจะมีการประกาศผลอุทธรณ์ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2566 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566
สำหรับวงเงินค่าครองชีพสำหรับ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่” ที่ผู้มีสิทธิ์จะได้ คือ
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้า ต่างจังหวัดและกทม. 300 บาท/คน/เดือน
2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม : 80 บาท/คน ระยะเวลา 3 เดือน
3.วงเงินค่าเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท/คน/เดือน ครอบคลุมการเดินทางขนส่งสาธารณะทั้ง 8 ระบบ จากเดิมจ่าย 500 บาท
4.วงเงินค่าไฟฟ้า ต่างจังหวัดและกทม. 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน โดยรอบนี้ประชาชนไม่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน
5.วงเงินค่าน้ำประปา ต่างจังหวัดและกทม. 100 บาท/ครัวเรือน/เดือนแต่ไม่เกิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน โดยรอบนี้ประชาชนไม่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์ยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการค้าปลีก โดย คุุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) มองว่า จะอยู่ในพวกสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จะมีการกระตุ้นตัวดีมานด์ และประกอบกับในช่วงนี้ที่จะอยู่ในช่วงหาเสียงก็จะช่วยหนุนให้สินค้าเหล่านี้น่าสนใจน้อย จึงแนะนำ CBG SAPPE และ NSL
สอดคล้องกับ คุณกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะว่า หมวดค้าปลีกที่จะได้ประโยชน์ อาทิ CPALL MAKRO SAPPE ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าทั่วไปและกลุ่มเครื่องดื่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว