“ประยุทธ์” ยืนยัน “ศักดิ์สยาม” หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ไม่กระทบครม.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องเพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่า เป็นเรื่องของศาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องปรับอะไรอีกหลายๆ อย่าง เพราะเกี่ยวกับ กกต. ด้วย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้ให้โอกาสในการชี้แจง ติดตามกันต่อไปก็แล้วกัน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม กำหนดการเดิมก็ยังอยู่ ใช้กำหนดการเดิมไปก่อน จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลง ก็ยังเหมือนเดิม

เมื่อถามต่อไปอีกว่า จะมีผลต่อการทำงานของคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มี เพราะงานทำกันไปตามนโยบายอยู่แล้ว นโยบายก็ได้วางไว้มากพอสมควร ไม่ว่าจะใครก็ตามก็ทำงานกันตามนโยบายในภาพรวม ซึ่งตนได้มอบนโยบายไปแล้ว แต่ละกระทรวงก็ต้องปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ มีทั้งหมดแล้ว ถึงอย่างไรก็ตามถึงรัฐมนตรีไม่อยู่ก็ยังมีปลัดกระทรวงอยู่ และรองนายกรัฐมนตรีก็ยังอยู่ และในระหว่างนี้ก็อาจจะต้องมีการตั้งผู้แทนชั่วคราว

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านทางไลน์ถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังได้รับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการแล้ว ตนก็จะชี้แจงข้อกล่าวหาไปตามกรอบเวลาภายใน 15 วัน โดยตนได้เตรียมคำชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว ยืนยันได้ถอนหุ้นจากบริษัทดังกล่าวก่อนเป็นรัฐมนตรีแล้ว อย่างไรก็ตามระหว่างที่ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม จะปฏิบัติหน้าที่แทน

ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนี้เช่นเดียวกันว่า ถือเป็นปกติตามขั้นตอนกฎหมาย ที่เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องให้ให้วินิจฉัย ศาลก็รับพิจารณาในเบื้องต้น และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เช่น กรณีนายกฯ ปม 8 ปี หรือ รัฐมนตรีคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นายศักดิ์สยาม ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน และชี้แจงข้อเท็จจริงให้ศาลภายใน 15 วันต่อไป ทั้งนี้ ตามที่ได้คุยกับนายศักดิ์สยาม ก็ยืนยันสามารถชี้แจงเรื่องเหล่านี้ได้ทั้งหมด ไม่มีความกังวลอะไร อีกทั้งที่ผ่านมาก็ได้อธิบายให้ ส.ส. และสมาชิกพรรคทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งชี้แจงเรื่องนี้ให้สังคมรับทราบมาอย่างต่อเนื่อง