ESSO ยืนแข็งสวนตลาด จับตาบอร์ดเคาะปันผลทิ้งทวน “เอ็กซอน” วันนี้
จับตาบอร์ด ESSO อนุมัติ “ปันผล” ทิ้งทวนก่อนควบ BCP ฟากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร ดันหุ้นยืนบวกสวนดัชนีร่วงแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 มี.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ณ เวลา 16:04 น. อยู่ที่ระดับ 9.10 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.55% สูงสุดที่ระดับ 9.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 148.95 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น ESSO ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง คาดนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังวันนี้บอร์ด ESSO มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลทิ้งทวนก่อนที่จะทำการควบรวมกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสุวัฒน์ สินสาฎก ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดว่า ESSO จะมีปันผลก้อนใหญ่ออกมา ซึ่งเหมือนกับกรณีของ DTAC ที่ปันผลก่อนควบรวมกิจการกับ TRUE ประเมินเบื้องต้น คาดว่าจะจ่ายปันผลอัตรา 1 บาท/หุ้น หรือ 3.46 พันล้านบาท คิดเป็น Dividend Yield 11% จากกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร ณ สิ้นปี 2565 ที่ 4.15 พันล้านบาท จำนวนหุ้นของบริษัทเอสโซ่ทั้งหมดจำนวน 3.46 พันล้านหุ้น ขณะที่บริษัท เอ็กซอนโมบิล ถือหุ้นเอสโซ่ 65.99% จำนวน 2.28 พันล้านหุ้น
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บอร์ดเอสโซ่จะพิจารณาจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี 2565 วันที่ 13 มี.ค. 2566 ทั้งนี้คาดว่า ESSO จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2565 แม้การจ่ายปันผลจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาขายหุ้นของ ESSO ของผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากราคาขายที่จะลดลง
ทั้งนี้ หากบอร์ด ESSO ตัดสินใจจ่ายเงินปันผล 1 บาท/หุ้น ก็จะไปส่งผลต่อราคารับซื้อหุ้นเอสโซ่จากทางบริษัท บางจาก ที่จะลดลงตามข้อตกลงที่ทำไว้ โดยบริษัทประเมินราคาขายหุ้น ESSO เบื้องต้นไว้ที่ 9.30 บาท/หุ้น หากบริษัทจ่ายปันผล 1 บาท ราคาขายจะเหลือเพียง 8.30 บาท/หุ้น
ขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราที่โดดเด่นสำหรับระยะเวลาการลงทุนที่ประมาณ 7 เดือน ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนรอการประกาศราคาชื้อหุ้น ESSO เบื้องต้นใหม่จาก BCP ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ตามเดิมที่ 8.8 บาท
นอกจากนี้ จากเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินแค่ 18% คาดว่านโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ดังนั้นจึงคาดว่าเงินปันผลครึ่งหลังปี 2565 ของ ESSO จะอยู่ที่ 0.6 บาท/หุ้น โดยคิดจากอัตราการจ่ายเงินขั้นต่ำที่ 40% และคิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 6.8%
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/2566 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน หรือกำไรสุทธิประมาณ 1.5 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากการพลิกกลับจากผลขาดทุนเป็นกําไรจากสต๊อกน้ำมัน และค่าการกลั่น หรือ GRM ที่คาดว่าจะสูงขึ้นจากค่าพรีเมียมน้ำมันดิบที่ลดลง รวมถึงค่าการตลาดขายปลีกน้ำมันที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ Singapore GRM ในเชิง QTD เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 8.6 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ขณะที่คาดว่าค่าการตลาดขายปลีกน้ำมันของ ESSO จะดีขึ้นจากการมีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลที่ 59%